รายงานความคืบหน้าทางวิชาการเกี่ยวกับ โควิดวันนี้ เป็นรายงานข่าวจากทาง เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ (Center for Medical Genomics) ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า
"แปด"สายพันธุ์ลูกผสมของไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ใดควรเฝ้าระวังและน่ากังวลที่สุด กับ "ห้า" คำตอบที่เป็นประโยชน์สำหรับประชาชชาวไทย ในการสร้างเสริมความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับ"โควิด-19 สายพันธุ์ลูกผสม" มากยิ่งขึ้น
Q1: ไวรัสโคโรนา 2019" สายพันธุ์ลูกผสมเกิดขึ้นได้อย่างไร
A1: เมื่อไวรัสซึ่งมีสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน “สองสายพันธุ์” เช่น เดลตา กับ โอมิครอน หรือโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 เข้ามาติดเชื้อเพิ่มจำนวนในเซลล์เดียวกัน (coinfection) กิจกรรมที่ไวรัสจะดำเนินการทันทีเมื่อมาอยู่ภายในเซลล์คือการเพิ่มจำนวนลูกหลานให้มากที่สุด
เอนไซม์ของไวรัสที่มีหน้าที่สร้างจีโนมสายใหม่โดยใช้จีโนมของสายพันธุ์ที่หนึ่งเป็นต้นแบบ (template) ดำเนินกระบวนการสร้างจีโนมสายใหม่มาระยะหนึ่งแล้วเกิดความผิดพลาดกล่าวคือเอนไซม์ดังกล่าวกระโดดเปลี่ยนไปใช้จีโนมของสายพันธุ์ที่สองเป็นต้นแบบในการสร้างจีโนม(template switching) ต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดไวรัส(จีโนม)ลูกผสมระหว่างสองสายพันธุ์ขึ้นมา (ภาพ1)
Q2: ทำไมถึงมีการค้นพบสายพันธุ์ลูกผสมมากมายในระยะนี้
A2: เหตุที่มีรายงานพบสายพันธุ์ลูกผสมจำนวนมากจากทั่วโลกในระยะนี้ก็เพราะเราเพิ่งมีไวรัสที่มีความแตกต่างกันทางพันธุกรรมบนสายจีโนมเป็นอย่างมากมาระบาดไปพร้อมกันทั่วโลก เช่น สายพันธุ์ “เดลตา”, BA.1 และ BA.2 - เมื่อเกิดสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างไวรัสเหล่านี้ เราสามารถจะตรวจกรองบรรดาลูกผสมเหล่านี้ได้โดยง่ายด้วยวิธีทางชีวสารสนเทศ (Bioinformatic) แม้ส่วนที่สับเปลี่ยนของจีโนมจะมีขนาดเล็กก็ตาม (ภาพ 2)
เหตุผลอีกประการคือมีการระบาดของ BA.1 ตามมาด้วย BA.2 (ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา) เกิดขึ้นในขณะที่ยังมีเดลต้าระบาดอยู่ในระดับที่สูงมากเช่นกัน- เปิดโอกาสให้เกิดการติดเชื้อร่วม (coinfection) ส่งผลให้เกิดสายพันธุ์ลูกผสม
Q3: ไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ลูกผสม มีทั้งหมดกี่สายพันธุ์
A3: การกำหนดสายพันธุ์ไวรัสโคโรนา 2019 นั้นอาศัยข้อมูลรหัสพันธุ์ของโควิด-19 ทั้งจีโนมซับมิทเข้าไปในโปรแกรมออนไลน์ “Pangolin COVID-19 Lineage Assigner” เรียกโดยย่อว่า “PANGOLIN; Phylogenetic Assignment of Named Global Outbreak LINeages (https://pangolin.cog-uk.io/)
PANGOLIN แบ่งสายพันธุ์ลูกผสมเป็น 2 หมวด 8 สายพันธุ์
หมวด 1 สายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง “Delta x BA.1” ประกอบด้วยสมาชิก 2 สายพันธุ์
XD-เป็นสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่าง Delta x BA.1 lineage พบในฝรั่งเศส ประกอบด้วยยีน S ที่สร้างหนามแหลม ส่วนอื่นเป็นจีโนมจากเดลตา
XF-จีโนมมีส่วนผสมระหว่าง ยีน S และยีนที่สร้างโปรตีนสำคัญของอนุภาคไวรัส มาจาก BA.1 กับส่วน 5’ จากจีโนมของเดลตา
หมวด 2 สายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง BA.1XBA.2 ประกอบด้วยสมาชิก 6 สายพันธุ์
XE-พบในอังกฤษ จีโนมมีส่วนผสมระหว่าง ยีน S และยีนที่สร้างโปรตีนสำคัญของอนุภาคไวรัส มาจาก BA.2 กับส่วน 5’ จากจีโนมของ BA.1 แสดงอัตราการแพร่ระบาด (growth advantage) เหนือ BA.2
XG-พบในเดนมาร์ก
XH-พบในเดนมาร์ก
XJ-พบในฟินแลนด์
XK-พบในเบลเยียม มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสดั้งเดิม "อู่ฮั่น" เกือบ 100 ตำแหน่ง มากกว่าทุกสายพันธุ์ ยังไม่พบในประเทศไทย
XL-พบในอังกฤษ
ลูกผสม XG,XH,XJ,XK, และ XL จะมีจุดจีโนมเชื่อมต่อ (break point) ระหว่าง BA.1 และ BA.2 ในบริเวณยีน ORF1ab
(ภาพ 3)
Q4: ไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ลูกผสมสายพันธุ์ใดที่น่ากังวลและควรเฝ้าจับตามอง
A4: สายพันธุ์ลูกผสม XD ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สายพันธุ์นี้พบใน ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ได้จีโนมควบคุมการสร้าง "ส่วนหนาม" มาจากโอมิครอน (BA.1) และจีโนมส่วนใหญ่ที่เหลือเป็นของเดลตา หากการผสมพันธุ์กัน (recombination) ในทางทฤษฎีอาจก่อให้เกิด "Super bug" หรือสายพันธุ์ที่แพร่ติดต่อได้อย่างรวดเร็ว และก่อโรครุนแรงกว่าทุกสายพันธุ์ที่เราเคยรู้จักกันมา แต่ข้อมูลจากโลกแห่งความเป็นจริง (real world data) ยังไม่พบว่า XD มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและก่อโรคโควิด-19 ที่รุนแรง อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาทควรเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
กรณีของสายพันธุ์ลูกผสม XF, XE, XG,XH,XJ,XK, และ XL ในประเด็นของการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน ความสามารถในการแพร่ระบาด (transmissibility) และอาการความรุนแรงของโรคโควิด (severity) หากดูจากรหัสพันธุกกรมบนสายจีโนมแล้วผู้เชี่ยวชาญหลายท่านลงความเห็นว่าไม่น่าจะแตกต่างไปจาก โอมิครอน (BA.1 และ BA.2)
อย่างไรก็ดี "สายพันธุ์ XK" ที่พบในเบลเยียมพบว่ามีการกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสดั้งเดิม "อู่ฮั่น" เกือบ 100 ตำแหน่ง มากกว่าทุกสายพันธุ์ ควรเฝ้าระวังเช่นกัน ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิก และยังไม่พบในประเทศไทย
Q5: เราจะรู้ประเภทของสายพันธุ์ลูกผสมไปเพื่ออะไร
A5: การอุบัติขึ้นของสายพันธุ์ลูกผสมก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการกลายพันธุ์แบบก้าวกระโดด ซึ่งอาจส่งผลต่อการควบคุมการระบาด การตรวจกรองด้วย ATK PCR ที่อาจไม่ถูกต้อง การป้องกันด้วยวัคซีนที่อาจด้อยประสิทธิภาพลง และการรักษาด้วยยาต้านไวรัสและแอนติบอดีสังเคราะห์ที่ไม่ได้ผล
เราจึงจำเป็นต้องรู้ว่าเรากำลังต่อสู้อยู่กับไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ใดอย่างละเอียด
“รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
(ดัดแปลงมาจากตำราพิชัยสงครามของซุนวู)
“เขา”ในกรณีนี้หมายถึง “ไวรัสโคโรนา 2019”
“เรา”หมายถึงองค์การอนามัยโลกและทุกประเทศทั่วโลกที่ได้จับมือกันเพื่อควบคุม ป้องกัน และ รักษาโรคโควิด-19
ตำราพิชัยสงครามของซุนวู เขียนไว้ว่า
"หากรู้เขา รู้เรา แม้นรบกันตั้งร้อยครั้งก็ไม่มีอันตรายอันใด
ถ้าไม่รู้เขาแต่รู้เพียงเรา แพ้ชนะย่อมก้ำกึ่งอยู่
หากไม่รู้ในตัวเขาตัวเราเสียเลย ก็ต้องปราชัยทุกครั้งที่มีการยุทธ์นั้นแล”
การตรวจสายพันธุ์ของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ดำเนินการภายใน 24-48 ชั่วโมงนั้นเพื่อสนับสนุนให้แพทย์ผู้รักษาเลือกใช้ยาต้านไวรัสและแอนติบอดีสังเคราะห์กับผู้ติดเชื้อกลุ่มเปราะบางได้อย่างถูกต้องกับสายพันธุ์ และทันต่อเวลาที่ต้องให้ยาและแอนติบอดีสังเคราะห์ภายใน 3 วันหลังติดเชื้อ
อ้างอิงจาก https://assets.publishing.service.gov.uk/.../Tech...
https://twitter.com/PeacockFlu/status/1504158873938272269...
ข้อมูลจาก ศูนย์จีโนมทางการแพทย์
ภาพจาก รอยเตอร์
ขอขอบคุณ Center for Medical Genomics