จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังกรมธนารักษ์ เพื่อขอให้ตรวจสอบการยึดถือ ครอบครองที่ดินกว่า 70 ไร่ ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสำนักสงฆ์สาขาวัดท่าไม้ นั้น
ล่าสุดนายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบด่วน พร้อมเปิดเผยกับทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ว่า ธรรมสถานดังกล่าวรุกพื้นที่ป่าจริง ซึ่งมีความผิดทั้งทางแพ่งและอาญา ต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายย้อนหลังตั้งแต่ปี 2551 ขณะนี้ทางวัดยื่นขอเช่าในนามมูลนิธิ ซึ่งมีการจัดตั้งเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังกองพลทหารพัฒนาในพื้นที่ ก่อนส่งเรื่องไปยังกองทัพบกว่าจะอนุญาติให้เช่าหรือไม่ ก่อนทำสัญญากับกรมธนารักษ์ต่อไป โดยพื้นที่ที่รุกป่านั้นมีเพียง 38 ไร่ ไม่ใช่ 70 ไร่ ส่วนอื่นๆ ชาวบ้านใช้ทำเป็นพื้นที่เกษตรและอยู่อาศัย โดยมีการเช่าถูกต้อง ซึ่งโดยปกติหากเป็นมูลนิธิสามารถเช่าพื้นที่ราชพัสดุได้ แต่ต้องดูวัตถุประสงค์ว่าสอดคล้องตรงกับระเบียบของธนารักษ์หรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะตั้งสถานธรรมหรือสำนักสงฆ์ได้ทุกพื้นที่
ส่วนคำถามที่ว่า เหตุใดที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังปล่อยให้สถานธรรมใช้สถานที่ทั้งที่ผิดกฏหมาย ถือเป็นการปล่อยปละละเลยหรือไม่ นายประภาศ ยืนยันว่า หน่วยทหารลงพื้นที่ดูแลตลอด แต่เนื่องด้วยเป็นสถานปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะให้เจ้าหน้าที่ไปรื้อแต่แรก เกรงจะกระทบกระเทือนจิตใจคนที่ศรัทธา
แต่อย่างไรก็ตาม หากผลสรุปออกมาให้เช่า ทางสถานธรรมต้องจ่ายค่าเสียหายย้อนหลังทั้งหมดก่อนจะทำสัญญาเช่าใหม่ แต่หากไม่อนุญาตให้เช่า นอกจากจะชดใช้ค่าเสียหายย้อนหลังแล้ว ต้องมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด และมีโทษอาญาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยคาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะทราบผล
ทั้งนี้เตรียมจัดระเบียบสำนักสงฆ์ สถานธรรม ทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ได้สองมาตรฐาน ใครทำผิดก็ว่าไปตามกฏหมาย ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นวัดชื่อดังแต่อย่างใด