แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ หลอกสาวชัยภูมิสูญเงิน2.7หมื่นบาท

18 มีนาคม 2565 น.ส.เอ (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 24 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ที่เดินทางมาขายขนมรังผึ้งในตลาสดเทศบาลเมืองบ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี กับพี่สาว ร้องไห้มาพบกับ นายวีระพล รักษ์เสมอวงษ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท เพื่อขอความช่วยเหลือและแจ้งเตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ยังอาละวาดหลอกหลวงประชาชน โดย น.ส.เอ บอกไม่น่าหลงกลโอนเงินไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เลย ที่น่าเสียดายเพราะเงินก้อนนี้ เป็นเงินที่เก็บสะสมค่าขายขนมเอาไว้ใช้จ่ายผ่อนค่ารถยนต์ ค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าแผงขายของ ตอนนี้ทุกข์ใจมาก แถมแก๊งนี้พอได้เงินยังชวนคุยเรื่องลามกขอมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย 

น.ส.เอ เปิดเผยว่า มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาตนเอง และบอกว่าเป็นบริษัทขนส่งเคอร์รี่แจ้งว่ามีของผิดกฎหมายเป็นพาสสปอร์ต 5 ใบ เอทีเอ็ม 8 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) จากนั้นเขาบอกว่าจะโอนสายให้ตำรวจ สภ.พิษณุโลก เพื่อคุยต่อ ต่อมาคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.พิษณุโลก ยศระดับสารวัตร ชื่อ พ.ต.ท.วิศิน สุภา แจ้งมาว่าบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ ที่ตนมีอยู่มีการฟอกเงินรับจ้างเปิดบัญชี จะเอาเรื่องไปขึ้นศาล ไม่อยากให้เป็นเรื่องมากมาย ขอเบอร์ที่อยู่และหมายเลขบัตรประชาชน และถามถึงเงินในบัญชีมีเท่าไร ตนเลยบอกว่ามี 27,000 บาท ตนหลงเชื่อและโอนเงินเข้าไปที่บัญชีของ น.ส.ปิยะฉัตร ม่วงงาม ธ.กสิกรไทย หมายเลขบัญชี 1222427882 ตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นจำนวนเงิน 27,000 บาท เพื่อให้ ปปง.ตรวจสอบ  

น.ส.เอ เปิดเผยอีกว่า ด้วยความตกใจ และไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ จึงโอนเงินไปให้เขาทันที โดยเขาก็บอกว่าจะได้คืนภายใน 30 นาทีถึง1 ชั่วโมง หลังจากโอนเงินไปแล้ว เขาก็โทรมาอีกว่า ให้ถือสายรอเพื่อตรวจสอบบัญชี และเงินที่โอนมาไม่พอ ต้องโอนมาตรวจสอบอีก เพราะมีเงินหมุนเวียนในบัญชีของตนเอง 8 ล้านบาท ให้โอนเงินมาอีก 10,000-300,000 บาท เพื่อให้ ปปง.ตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งตนบอกว่าตนไม่มีเงินโอนให้อีกแล้ว เขาก็บอกให้ไปหาหยิบยืมเพื่อนและญาติ และตนรู้สึกว่าโดนหลอกเข้าแล้ว จึงชวนเขาคุยเพื่อบันทึกเสียงเป็นหลักฐาน จากนั้นเขาก็ชวนคุยเรื่องเซ็กซ์ขึ้นมาทันที และตนมีคลิปเสียงที่บันทึกระหว่างพูดคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเปิดให้ฟังด้วยว่า  
 
โดยข้อความสนทนา คุยทุกเรื่องที่เป็นเรื่องลามกสุดๆ จากนั้นหนูก็บอกว่า ขอคุยเรื่องเงินที่หนูโอนไปก่อนได้ไหมว่าจะได้คืนเมื่อไหร่ แก๊งมิจฉาชีพก็บอกว่า ตอนนี้กำลังส่งเงินที่โอนมาให้ ปปง.ตรวจสอบ และทางท่าน ผกก.สภ.พิษณุโลก แจ้งว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้อง และต้องหาเงินอีก 30,000-300,000 บาท มาไว้ในบัญชีและโอนมาตรวจสอบย่างละเอียดอีก จากนั้นเขาก็ตัดสายไป พอตนโทรไปหาอีกก็ไม่ยอมรับสายตนอีกเลย  ตอนนี้ได้ไปแจ้งความที่ สภ.บ้านดุง ไว้แล้ว และอยากจะเตือนประชาชนอย่าไปเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เหมือนกับตนเองโดยเด็ดขาด

โดย - เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์