17 มีนาคม 2565 นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ ที่ปรึกษาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับ นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน พร้อมด้วยตัวแทนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลเอกชนทั่วประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางการเบิกจ่ายกรณีผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกรณียกเลิก ยูเซป โควิด “UCEP โควิด-19”
นพ.การุณย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชนในการร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์นี้มาได้ด้วยดี แต่ด้วยเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แม้ว่าจะไม่รุนแรงและเตรียมปรับเป็นโรคประจำถิ่น แต่ก็ทำให้ขณะนี้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ประกอบกับที่ผ่านมาได้มีการยกเลิกบริการยูเซปโควิด (UCEP โควิด-19) และปรับเปลี่ยนสู่บริการยูเซปพลัส (UCEP Plus) ตามที่มติ ครม. เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ที่ได้แยกผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อยที่เป็นสีเขียว ออกจากสิทธิประโยชน์ยูเซปพลัส โดยให้คงไว้แต่ผู้ป่วยสีเหลืองและแดง
“ ต้องชี้แจงหลักเกณฑ์การจ่ายค่าบริการโควิด-19 ใหม่ให้เกิดชัดเจน เพื่อให้สถานพยาบาลเอกชน ที่ไม่ใช่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเข้าร่วมดูแลผู้ป่วยโควิดให้เข้าถึงบริการอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ”
ทั้งนี้ การให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กรณี บริการผู้ป่วยนอกแยกกักตัวที่บ้าน สถานพยาบาลสามารถเบิกจ่ายค่ารักษาเบื้องต้นแบบเหมาจ่าย 1,000 บาท/ราย ครอบคลุมบริการให้คำแนะนำแยกกักตัวที่บ้าน ยารักษาโรคโควิด-19 ได้แก่ ยาฟ้าทะลายโจร ยาฟาวิพิราเวียร์ (เบิกจาก สธ.) และยารักษาตามอาการ เป็นต้น และการติดตามอาการผู้ป่วยหลังครบ 48 ชั่วโมง รวมถึงการส่งต่อหากผู้ป่วยมีอาการแย่ลง และค่าบริการให้คำปรึกษาแบบเหมาจ่าย 300 บาท สำหรับกรณีที่ผู้ป่วยมีการโทรศัพท์กลับมาภายหลัง 48 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะมาจากอาการไม่ดีขึ้นหรือจำเป็นต้องส่งต่อ
กรณี บริการดูแลผู้ป่วยที่บ้านและในชุมชน (Home Isolation / Community Isolation) และบริการ Hospitel เป็นการเบิกจ่ายค่าบริการเหมาจ่าย โดยครอบคลุมค่าบริการดูแลผู้ป่วย ทั้งค่าอาหาร 3 มื้อ การประเมินและติดตามอาการ การให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังมีค่าอุปกรณ์ในการดูแลและติดตามสัญญาณชีพ ค่ายาที่เป็นการรักษาโรคโควิด-19 และค่า Chest X-ray กรณีที่มีความจำเป็น โดยกรณีให้บริการรักษาและติดตาม 1-6 วัน เป็นจำนวน 6,000 บาท และกรณีให้บริการรักษาและติดตาม 7 วันขึ้นไป เป็นจำนวน 12,000 บาท
ส่วนค่าบริการตรวจหาเชื้อทั้งแบบ ATK และ RT-PCR ของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิเพื่อตรวจคัดกรองและเข้าสู่การรักษานั้น ยังคงเบิกจ่ายจาก สปสช. ตามหลักเกณฑ์บริการก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลยังคงให้การสนับสนุนบริการนี้ให้กับคนไทยทุกคนทุกสิทธิรักษาพยาบาล
“หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าบริการโควิด-19 ใหม่นี้ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งทุกสถานพยาบาลจะต้องใช้หลักเกณฑ์ใหม่นี้ในการดูแลผู้ป่วยและเบิกจ่ายค่าบริการ พร้อมกันนี้ขอให้สถานพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทำข้อตกลงร่วมให้บริการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อที่ สปสช.จะได้ส่งผู้ป่วยเข้ารับบริการ และให้การเบิกจ่ายค่าบริการเป็นไปอย่างถูกต้อง” นพ.การุณย์ กล่าว
ทั้งนี้จากการประชุมชี้แจงเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 มีโรงพยาบาลเอกชน 85 แห่งแจ้งความประสงค์ร่วมทำข้อตกลงให้บริการผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว