สภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า ระวังฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ช่วง 15-18 มี.ค.นี้

12 มีนาคม 2565 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 12-18 มีนาคม 2565 มีรายละเอียดดังนี้ 

 

ในช่วงวันที่ 12-14 มี.ค. 65 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก 

 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมี อากาศร้อน กับมี ฟ้าหลัว ในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย

 

 

ส่วนในช่วงวันที่ 15 - 18 มี.ค.65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีกำลังแรงขึ้น 

 

ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค. 65 ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

 

ช่วงวันที่ 15-18 มี. ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่าที่จะเกิดขึ้นได้  โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

 

 ภาคเหนือ 

ช่วงวันที่ 12 - 14 มี.ค. 65 อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทางด้านตะวันตกของภาค

• อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส 
• ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

วันที่ 15 - 18 มี.ค.65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่

• อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

ช่วงวันที่ 12 - 14 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค

• อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

ส่วนในช่วงวันที่ 15–18 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่

• อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

 ภาคกลาง 

ช่วงวันที่ 12 - 14 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

ช่วงวันที่ 15 - 18 มี. ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

• อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
• ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

 ภาคตะวันออก 

ช่วงวันที่ 12 - 14 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

 

ช่วงวันที่ 15 – 18 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

• อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

 

 

 ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) 

ช่วงวันที่ 13 - 15 มี.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

ช่วงวันที่ 16 - 18 มี.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร

• อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส

 

 ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) 

ช่วงวันที่ 13 - 15 มี.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

 

ขณะที่ช่วงวันที่ 16 – 18 มี.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

• อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส

 

 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 

ช่วงวันที่ 12 - 14 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

• ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

ช่วงวันที่ 15–18 มี.ค. 65 อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

• อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

ขอบคุณที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา