แก๊งทวงหนี้โหด! นายทุนยกพวกบุกพังบ้านลูกหนี้นอกระบบ

5 มีนาคม 2565 เหตุการณ์เจ้าหนี้บุกทำลายบ้านลูกหนี้นอกระบบอย่างป่าเถื่อนรายนี้เกิดขึ้นวานนี้ (4มี.ค.)ที่บ้านนางพิมพา สรรเสริญ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 5 บ้านหนองไหล ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ที่ตกเป็นเหยื่อการเข้าทุบทำลายบ้านได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยังหลายหน่วยงานว่า มีนายทุนเงินกู้พร้อมลูกน้องร่วม 10 คน มาบุกบ้านรื้อหลังคาบ้านทำลายข้าวของภายในบ้านพังเสียหายเกือบทั้งหลัง 

โดยสภาพบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณหลังคาถูกทำลายเสียหาย ขณะที่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านถูกรื้อและโยนออกมาทิ้งกระจัดกระจาย โดยเจ้าของบ้านต้องนำเสื่อออกมานอนตากน้ำค้างทั้งคืน ส่วนทรัพย์สินมีค่า เช่น ทองคำรูปพรรณที่เก็บไว้หายไปเหลือเพียงตลับเท่านั้น

นายธีรพัฒน์ รัตนพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 เปิดเผยว่า ได้เข้ามาระงับเหตุโดยได้พยายามมาเจรจาไกล่เกลี่ยหาช่องทางให้มีการพูดคุยกันแต่ไม่เป็นผล ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของเงินกู้ก็ว่ากันไปแต่ในส่วนของการเข้าทำลายทรัพย์สินนี้ก็ต้องเป็นอีกเรื่อง

น.ส.อรพันธ์ สรรเสริญ อายุ 46 ปี ลูกสาวของผู้เสียหายซึ่งได้รับโอนที่ดินแปลงนี้จากมารดา เล่าว่า  พี่สาวคนโตได้มาขอความช่วยเหลือจากแม่เนื่องจากเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงอโฉนดที่ดิน 1 ไร่ 70 ตรว.พร้อมบ้าน 1 หลังเพื่อไปขอกู้เงิน ซึ่งที่ดินแปลงนี้แม่ได้ยกให้เป็นชื่อของตนเองแล้ว แต่เพราะสงสารพี่สาวจึงยอมช่วยโดยไปทำสัญญาขายฝากกับนายทุนเงินกู้รายหนึ่ง ที่นางพรพิมลพี่สาวเป็นคนติดต่อให้ 

จากนั้นก็เขียนสัญญาการกู้เงินเป็นสัญญาขายฝากเป็นจำนวนเงิน 450,000 บาทเป็นรายปี รวมทั้งต้นทั้งดอก 623,000 บาท แต่ได้เงินมาจริงเพียง 290,000 บาท ส่วนต่างนายหน้า 3 คน มีนางปุ๊ นางนงค์ และนางสาวได้ไป จนกระทั่งวันเกิดเหตุ นายทุนเงินกู้ได้เดินทางมาที่บ้านนางพิมพาพร้อมกับลูกน้องร่วม 10 คน บุกเข้าไปที่บ้านทำการรื้อหลังคาบ้าน ทำลายข้าวของภายในบ้านจนพังเสียหายเกือบทั้งหลัง

ขณะที่คนในบ้านไม่มีใครอยู่ โดยนางพิมพาไปร่วมทำบุญฉลองพระบวชใหม่ที่วัดหลักช้างห่างจากบ้านไป 3 กม.เมื่อทราบข่าวก็รีบกลับมาดู โดยมีผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านหลายคนเข้ามาช่วยห้ามปรามให้หยุดการกระทำ แต่พวกนายทุนไม่ฟังเสียงและไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมืองยังคงรื้อทำลายต่อไป โดยพูดข่มขู่ชาวบ้านที่มามุงดูว่าได้มีการเคลียร์และจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว กระทั่งมีตำรวจสายตรวจ สภ.ช้างกลาง เจ้าของพื้นที่เข้ามาตรวจสอบทำให้กลุ่มนายทุนยอมฟังและกลับไป

หลังเกิดเหตุ น.ส.อรพันธ์  และนางพิมพาผู้เป็นแม่ ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ศุภชัย งามปลอด พนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง ให้ดำเนินคดีกับนายทุน พร้อมลูกน้องทั้งหมดที่มาบุกรุกรื้อหลังคาบ้าน ทำลายข้าวของได้รับความเสียหายเพื่อเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เนื่องจากยังมีวิธีการพูดคุยเจรจากันได้ โดยทาง น.ส.อรพันธ์พร้อมจ่ายเงินคืนทั้งต้นทั้งดอกให้จำนวน 700,000 บาท แต่นายทุนไม่ยอมบอกว่าถ้าจะซื้อกลับคืนต้องจ่ายที่ 1,500,000 บาท ทำให้ตกลงกันไม่ได้ 

ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในชั้นตำรวจที่จะต้องเรียกนายสมศักดิ์ หนึ่งในผู้ที่เข้าไปรื้อบ้านเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานบุกรุกรื้อทำลายข้าวของดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนเรื่องเงินที่ทำสัญญาขายฝากก็ต้องไปว่ากันในชั้นศาล ตามขั้นตอนกฎหมาย

ภาพ/ข่าว : กฤษณะ ทิวัตถ์สิริกุล สำนักข่าวเนชั่น จ.นครศรีธรรมราช