svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เพื่อไทย แนะ พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาฯหรือลาออก ก่อนที่ประชาชนจะออกมาขับไล่

21 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“เพื่อไทย” เตือน “พล.อ.ประยุทธ์” มีโอกาสเสียตำแหน่งสูง ถ้าอยู่ถึงอภิปรายไม่ไว้วาง ในเดือนพ.ค. ชี้ ผลจากการอภิปรายและภาวะเศรษฐกิจที่เสื่อมถอย เชื่อว่า ประชาชนจะทนกันไม่ไหว และจะออกมาเรียกร้อง แนะ รีบยุบสภาฯหรือลาออกก่อน

21 กุมภาพันธ์ 2565 นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหาร และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกันอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม ม.152 แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กลับตอบในสภาฯไม่ตรงกับคำถาม ตอบเหมือนเขียนบทล่วงหน้ามาอ่าน ไม่ได้ตรงกับคำถามที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายเลย แถมยังตอบด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว โทษรัฐบาลที่แล้ว ทั้งที่ผ่านมาตั้ง 8 ปีแล้ว โทษประชาชน โทษภาวะของโลก แต่ไม่ยอมรับความผิดพลาดจากการบริหารของตนเองเลย โดยคนทั้งประเทศเห็นอย่างชัดเจน ถ้าหากยังไม่ยอมรับปัญหาทำเหมือนไม่ใช่ปัญหา พูดเหมือนทุกอย่างดีแล้ว จะไม่มีทางแก้ปัญหาได้เลย ประชาชนจะยิ่งลำบากกันมากขึ้น

 

โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนกันอย่างมาก จากความล้มเหลวในการบริหารของพลเอกประยุทธ์ แต่พลเอกประยุทธ์ ทำเหมือนไม่ใช่ปัญหาและปัดความรับผิดชอบ โดยมีหลายประเด็นที่พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้ตอบเช่น ปัญหาของแพง พลเอกประยุทธ์ จะรับมืออย่างไร ปัญหาอันดับการทุจริตที่แย่ลงเรื่อยๆ จะแก้ไขอย่างไร จะอ้างว่าตนเองไม่ทุจริตแต่ดัชนีการทุจริตกลับทรุดลง 5 ปีซ้อน

ปัญหาคนจนที่เพิ่มขึ้น คนตกงานที่พุ่งสูง ปัญหาราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นไปอีก การโอนเงินกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 20,087.42 ล้านบาทไป จะนำมาคืนประชาชนเมื่อไหร่ การที่ ปตท. ไปซื้อบริษัทต่างชาติ 1.48 แสนล้านบาท เหมาะสมหรือไม่ ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ คนตกงานกันมากเพราะประเทศไทยขาดการลงทุน แต่ปตท. กลับขนเงินไปลงทุนต่างประเทศ ปัญหาการท่องเที่ยว และจะยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 300 บาทที่จะเป็นปัญหาหรือไม่  ความเสียหายจากความล่าช้าในการสร้างรถไฟความเร็วสูงทำให้ลาวแซงหน้าไทย ปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู (ASF) ที่จะทำให้ราคาหมูแพงเป็นปีๆ รวมถึงปัญหาโรคลัมปีสกินในวัว ปัญหาประสิทธิภาพทางการเกษตรที่พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้พัฒนาเลยตลอด 7 ปี

 

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นหลายเรื่อง โดยเฉพาะภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะเก็บเพิ่มขึ้น 10 เท่า ปัญหาการอนุญาตให้ปิดกิจการประกันภัยที่รับประกันโควิด-19 เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินคนที่ติดโควิด-19อีกในอนาคตที่โยงกับการซื้อที่ดิน 600 ล้านบาท ปัญหาการเอื้อประโยชน์เจ้าสัวในการปล่อยให้มีการผูกขาด ทั้งการควบรวมแม็คโครกับโลตัส ล่าสุดการควบรวม True-DTAC และที่เป็นประเด็นสำคัญที่คนทั้งประเทศสนใจ คือ ปัญหาเหมืองทองอัครา ที่มีการให้สัมปทานเกือบล้านไร่ เพื่อแลกการถอนคดีพิพาทที่พลเอกประยุทธ์ อาจจะแพ้เพราะใช้ ม. 44

อีกทั้งยังมีปัญหาในอนาคตที่ พลเอกประยุทธ์ ต้องรับมือ เช่น ปัญหาราคาสินค้าแพงและเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้น ปัญหาราคาน้ำมันที่จะแพงขึ้นไปอีก ปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่จะสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยของโลกที่จะเพิ่มขึ้น ปัญหาที่รัฐบาลอาจจะหมดกระสุนอัดฉีดเงินแล้ว และปัญหาประชาชนไม่มีรายได้มาเพิ่มกำลังซื้อในการบริโภค ฯลฯ ที่พลเอกประยุทธ์ ยังไม่ได้ตอบแนวทางที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้เลย

 

ผลจากการอภิปรายและจากสภาวะเศรษฐกิจที่จะเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ เชื่อได้ว่าประชาชนจะทนกันไม่ไหว และจะต้องมีการเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่ง และเสียงเรียกร้องจะดังขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงขอเตือน พลเอกประยุทธ์  ระวังให้ดี ถ้ายังดื้ออยู่ให้ถึงเดือนพฤษภาคมที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม. 151 ที่จะมีการลงคะแนนเสียง ถึงตอนนั้นปัญหาต่างๆ จะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย และประชาชนคงจะทนกันไม่ไหวแล้ว จะออกมากดดันที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ให้เอาพลเอกประยุทธ์ อีกต่อไป

 

เพราะหากยังรับรองนายกฯต่อ ประชาชนก็คงไม่เลือกกลับมาอีกในการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเป็นแน่ ประกอบกับความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรคร่วมรัฐบาลเอง โอกาสที่พลเอกประยุทธ์ จะถูกโหวตไม่ไว้วางใจจึงมีสูงมาก และเป็นไปได้สูงที่พลเอกประยุทธ์ จะถูกไฮแจ็คตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกลางสภาฯตามคำเตือน ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ ควรจะต้องยุบสภาฯหรือลาออกก่อนการอภิปรายตามมาตรา 151 เพราะหาก พลเอกประยุทธ์ ยังไม่รู้ตัวอีกไม่นานคงได้เห็นอะไรดีๆในสภาฯอย่างแน่นอน โดยหากเป็นจริงจะทำให้ประชาชนดีใจกันทั้งประเทศ

logoline