ตำรวจ ปปป. บุกจับ รองเจ้าคณะจ.นครนายก พร้อมเชิญ 11 เจ้าอาวาส สอบเงินทอนวัด

18 กุมภาพันธ์ 2565 ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญ เกียรติ ปานแก้ว ผู้บัญชาการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ผบก.ปปป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. บูรณาการกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ บก.ปอท, เจ้าหน้าที่บก.รฟ., เจ้าหน้าที่ บก. ทล., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวมกว่า 60 นาย เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่ จ.นครนายก จ.นนทบุรี และ กรุงเทพมหานคร เพื่อตามจับกุมผู้กระทำผิดทุจริตเงินอุดหนุนวัด ของสํานักงานพระพุทธศาสนา รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด

เป้าหมายสำคัญของการตรวจค้นอยู่ที่ กุฏิพระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก อีกตำแหน่งคือ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก เมื่อพบตัว พระสิทธิวรนายก เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นศาลจังหวัดนครนายก ขอเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆภายในกุฏิ ก่อนจะนิมนต์พระสิทธิวรนายก ไปยัง สภ.เมืองนครนายก เพื่อทำการสอบปากคำ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้นิมนต์ เจ้าอาวาสวัดอื่นๆในพื้นที่ จ.นครนายก ที่เกี่ยวข้องอีก 11 วัด มาทำการสอบปากคำยัง สภ.เมืองนครนายก อีกด้วย

สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบงบอุดหนุนวัดของสํานักงานพระพุทธศาสนา ช่วงระหว่างปี 2550-2559 ของ จ.นครนายก หลังพบความผิดปกติหลายอย่างจนเชื่อได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง

จนกระทั่งพบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผู้อำนวยการสํานักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี พร้อมเจ้าหน้าที่สํานักพุทธฯ ได้ร่วมกับ พระสิทธิวรนายก และเจ้าอาวาสวัดต่างๆในพื้นที่ ทุจริตเงินอุดหนุนจากสำนักงานพุทธฯ ที่อนุมัติให้วัดต่างๆใน พื้นที่ จ.นครนายก 12 วัด ในวงเงินงบประมาณ 123 ล้านบาท

โดยมีพฤติการ หลังจากเจ้าอาวาสแต่ละวัดได้รับเงินอุดหนุนแล้ว ก็จะทำการถอนเงินสดออกมาทั้งหมด แล้วนําไปให้พระสิทธิวรนายก จากนั้นก็จะแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนให้วัดต่างๆคืนไป โดยอ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สํานักงานพุทธฯ เพื่อนําไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆที่ยังขาดแคลนงบประมาณ รวมเงินที่เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนรวบรวมมาได้ กว่า 110 ล้านบาท ก่อนจะนําเงินไปแบ่งกับ นายนพรัตน์

อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนยังพบอีกว่า ทั้ง อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนา และ เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน หลังได้เงินมาแล้ว ได้นำเงินบางส่วน ไปซื้อที่ดินทรัพย์สิน ต่างๆจํานวนมาก โดยมีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่า ทั้งคู่ได้กว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครนายก ที่มีความสนิทกัน จํานวน 3 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 10 ไร่ มูลค่ารวมประมาณ 18.6 ล้านบาท

โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนในลักษณะอําพรางปกปิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทําที่ส่อไปในทางทุจริต และถือเป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงิน จึงนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าวในวันนี้ขึ้นมา เพื่อตามตรวจค้นจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินที่ดินเหล่านี้กลับคืนสู่พระพุทธศาสนา

หลังจากนี้ทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) พร้อมหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจะจัดแถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติการอย่างละเอียดอีกครั้ง ในเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันเดียวกัน ที่ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารสำนักงานกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)