ป่าไม้ราชบุรีจับนอมินีเสี่ย "ก"อดีตเจ้าของอ่าง รุกป่าสวนผึ้ง

สืบเนื่องจาก วันที่ 8 กันยายน 2564 คณะเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วยหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าพุยาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าบ่อหวี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้สจป.ที่ 10 ราชบุรี ได้เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าบ้านท่าไม้แดงหมู่ที่ 6 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และในเขตป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 พบการกระทำความผิดตรวจยึดพื้นที่ 1 แปลงเนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ 65 ตารางวาและตรวจยึดรถแบคโฮจำนวนหนึ่งคันจับกุมผู้กระทำความผิดได้สองคนคือนาย "ธ" และนาย"ส"

เป็นการกระทำความผิดตามบทบัญญัติพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 54 ฐานห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้างแผ้วทางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยการประการใดอันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นเว้นแต่จะกระทำภายในเขตที่ดินที่ได้จำแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรมและรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ผิดมาตรา 55 มาตรา 32 ทวิ ผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 34 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 2559 มาตรา 26 / 1 มาตรา 26 / 4 และมาตรา 31 มาตรา 35

สืบเนื่องจากวันที่ 7 กันยายน 2564 คณะเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านผู้หวังดีว่ามีเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้ามาในพื้นที่ป่าบริเวณท้องที่บ้านท่าไม้แดงหมู่ที่ 6 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่มาก็พบนาย "ส" แสดงตนเป็นผู้รับเหมา เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบว่าพื้นที่ที่ดำเนินการมีเอกสารสิทธิ์ใดๆ หรือไม่

ซึ่งนาย "ส" ยินดีให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า เข้ามาดำเนินการปรับพื้นที่เพื่อทำการเกษตร คณะเจ้าหน้าที่ได้สอบถามพื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ใดใดหรือไม่ นาย "ส" บอกว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก พร้อมกับแนะนำหลักฐานเอกสารน.ส.3 ก จำนวน 4 ฉบับมาแสดงกับเจ้าหน้าที่โดย น.ส.3 ก แต่ละฉบับมีเนื้อที่ 50 ไร่รวมเนื้อที่ 200 ไร่ จากการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์น.ส.3 ก ปรากฏชื่อผู้ครอบครองคือ นาง "ป" ทั้ง 4 ฉบับ ออกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2535

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ปัจจุบันผู้ถือครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวคือ บริษัท "เอ"  เจ้าหน้าที่สอบถามสามารถติดต่อประสานกับเจ้าของที่ดินได้หรือไม่ซึ่งต่อมามีการประสานติดต่อทางโทรศัพท์กับเจ้าของที่ดินเพื่อมารับทราบวัตถุประสงค์ระหว่างการประสานติดต่อเจ้าของที่ดินเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรอบพื้นที่การบุกรุกตรวจวัดหาค่าพิกัดโดยใช้เครื่องมือหาค่าพิกัดจากสัญญาณดาวเทียม GPS ในระบบ WGS จำนวน 16 จุด คำนวณเนื้อที่ได้ประมาณ 268 ไร่ 65 ตารางวา

ต่อมานาย"ธ" แสดงตัวเป็นตัวแทนเจ้าของที่ดิน ได้มาพบกับเจ้าหน้าที่ในช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้เจ้าของที่ดินทราบว่ามีพื้นที่บางส่วนอยู่นอกเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก และประสานกับเจ้าหน้าที่ส่วนจัดการที่ดินอำเภอสวนผึ้ง เพื่อมาสอบเขตส่วนพื้นที่ที่ระบุเอกสารน.ส. 3 ก เพื่อความชัดเจนในการดำเนินการ

8 กันยายน 2564 คณะเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้กับนาย"ธ" ทราบว่าที่ดินส่วนที่อยู่นอกแปลงเอกสารสิทธิ์น.ส. 3 ก อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และบางส่วนอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งอยู่ในเขตป่าไม้พุทธศักราช 2484 จึงแจ้งกับนาย"ธ" ว่าจะต้องดำเนินการตรวจยึด เนื้อที่รวม 68 ไร่ 65 ตารางวา ล่าสุดคดีอยู่ในชั้นอัยการจังหวัดราชบุรี

สำหรับนาย"ธ" ได้รับสมอ้างเป็นผู้แทนบริษัท"เอ" ซึ่งเป็นบริษัทที่มีลูกสาวนาย"ก" อดีตเจ้าของอ่าง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนแต่เพียงผู้เดียวการใส่ชื่อลูกสาวหรือตัวแทนเป็นผู้ถือหุ้นเพื่อป้องกันการถูกยึดทรัพย์ กรณีเป็นหนี้หรือถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินทางแพ่ง ซึ่งปัจจุบันนาย"ก"อดีตเจ้าของอ่าง ถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงินทั้งทางแพ่งและอาญาตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากกระทำความผิดฐานค้าประเวณีและค้ามนุษย์ จึงพยายามผ่องถ่ายทรัพย์สินเพื่อให้พ้นจากการบังคับคดีอายัดหรือถูกยึดทรัพย์