บรรยากาศตอนนี้อยู่ในสภาวะที่เร่งรัด เร่าร้อนไปด้วยเรื่องของการยุบสภาหรือจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะสถานการณ์ในขณะนี้เสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอนจากปัญหาข้างใน ตอนนี้สถานการณ์ที่บีบรัฐบาล มีอยู่สองเรื่อง "ยุบ กับ ยึด"
ปัจจุบันรัฐบาลลุงตู่เดินหน้าไปข้างหน้ายากมาก สาเหตุที่ไปต่อยาก
นี่คือปัญหาที่ลุงตู่ต้องพิจารณาทางการเมือง ถ้ารัฐบาลลุงตู่เดินหน้าต่อไปจะเจอพันธกิจอะไรบ้าง
4 พันธกิจ ประยุทธ์
เป้าหมายสำคัญคือจะทำยังไงให้เดินไปสู่มรสุมเดือนพฤษภาคมแล้วไม่ถูกขึงอยู่ในสภาคนเดียว ในแง่ของการล้มโดยสภา จะมีกฎหมายใดที่จะเข้าสภาบ้าง
ถ้ากฎหมายไม่ผ่านนายกต้องยุบสภา เพราะฉะนั้นในแง่มิติของสภาในการพิจารณากฎหมาย ไฮไลท์จะไปอยู่ที่กฎหมายการเงินคืองบประมาณ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้สภาไม่เป็นมิตร กลายเป็นปัญหาและจุดอ่อนของรัฐบาล
สถิติสภาล่ม 15 ครั้ง
ปี 2562
ปี 2563
ปี 2564
ปี 2565
กระบวนการบริหารประเทศมี 3 ขา ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการและฝ่ายรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ในการพิจารณาออกกฏหมาย ฝ่ายบริหารกับสภาต้องเดินคู่กัน แต่มันมีปัญหา
ทางออก 3 พันธกิจ
**รธน. 2560 มาตรา 141
บัญญัติให้ใช้กฎหมายว่าด้วยงบประมาณ รายจ่ายในปีงบประมาณปีก่อนนั้นไปพลางก่อน
ประกอบกับ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 12
บัญญัตให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนได้ ตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกำหนด
เพราะฉะนั้นทางออกของเรื่องราวเหล่านี้และวิกฤติของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องฝ่าด่านไปให้ได้ กลไกกติกาของบ้านเมืองก็จะเดินหน้าไปได้ แต่สถานการณ์ไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพราะกลเกมทางการเมืองในขณะนี้ล้วนแล้วแต่พุ่งไปที่เดียว "เร่งรัดให้นำไปสู่การยุบสภา" เลือกของพลเอกประยุทธ์ก็ยังมีอยู่สองทางเลือก จะไปรีแบนพลังประชารัฐหรือไปตั้งพรรคใหม่เพื่อรองรับหากพลังประชารัฐไม่สามารถรีโนเวทได้
ที่มา เนชั่นอินไซต์ โอ-บากบั่น บุญเลิศ , วี-วีระศักดิ์ พงศ์อักษร