1 กุมภาพันธ์ 2565 เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ชาวเอเชีย-อเมริกันร่วมขบวน Asian Justice Rally ได้ร่วมกันเดินขบวน เพื่อรำลึก 1 ปีการเสียชีวิตของนายวิชา รัตนภักดี วัน 84 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกผลักล้มของวัยรุ่นอเมริกันผิวสีวัย 19 ปี อองตวน วัตสัน (Antoine Watson) ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการเหยียดเชื้อชาติ โดยการรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่รำลึกกรณีนายวิชาเท่านั้น แต่ยังมีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลกิจกรรมการณรงค์ภายในอีกด้วย
ทั้ง 2 กิจกรรมมีเป้าหมายเดียวกันคือ รวมกลุ่มเอเชียเพื่อขับเคลื่อนความยุติธรรมให้กับเหยื่ออาชญากรรมชาวเอเชีย-อเมริกันอีกหลายชีวิตที่เสียชีวิตจากการเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งหลายกรณีเกิดขึ้นจากการเหยียดเชื้อชาติและสัญชาติ อีกทั้งเป็นการรณรงค์เพื่อลดความรุนแรงจากความเกลียดชังที่เกิดกับชาวเอเชียในสหรัฐฯ
สำหรับความคืบหน้าของคดี มณฑนัศ รัตนภักดี บุตรสาวนายวิชา เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการสืบสวนของศาลชั้นต้นและยังไม่มีการส่งฟ้อง โดยศาลนัดไต่สวนในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ เข้าใจว่าเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งตนและครอบครัว รู้สึกผิดหวังกับความล่าช้าของคดี แต่ยังไม่สิ้นหวังจากการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้คุณพ่อ รวมทั้งเหยื่ออาชญากรรมชาวเอเชียรายอื่น ๆ
"ทนายทั้ง 2 ฝ่ายยังคงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสู้คดีอยู่ เราเองยังไม่รู้เหมือนกันว่าอัยการจะมีอะไรมาเสนอต่อผู้พิพากษา แต่เรายังเชื่อว่าคดีของคุณพ่อจะเป็นตัวอย่างความยุติธรรม ให้แก่เหยื่ออาชญากรรมที่เกิดจากการเหยียดเชื้อชาติ เราผิดหวังเพราะคดีอื่นๆในรัฐนี้จบเร็ว ปิดเร็ว ไม่เปรียบเทียบกับรัฐอื่นนะ เอาแค่รัฐนี้ เราคิดว่าควรจะเร็วกว่านี้ อยากให้ลงโทษคนร้ายจริงจัง ไม่อยากให้การเสียชีวิตของคุณพ่อเปล่าประโยชน์" มณฑนัศ กล่าว
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า บอร์ดบริหารกรุงซานฟรานซิสโกหรือ Board of Supervisors มีความเห็น อนุมัติให้มีการเปลี่ยนชื่อถนน Sonora Lane ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุทำร้ายนายวิชา เป็น Vicha Ratanapakdee Lane ขณะนี้รอให้ออกเป็นกฎหมาย เพื่อเป็นการเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ
ขณะที่แกรี่ คุณาบุตร ตำรวจอเมริกันเชื้อสายไทย ที่ได้รับตำแหน่งตำรวจดีเด่นเมื่อไม่นานนี้ กล่าวว่า จริงๆเรื่องอาชญากรรมในกรุงซานฟรานซิสโกนั้นมีทุกวัน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตนในฐานะคนไทยและคนเอเชีย เข้าใจดีว่าเมื่อมีข่าวน่าเศร้าเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวเอเชียย่อมสร้างความลำบากใจ และความกลัว แก่คนเชื้อสายเอเชียไม่น้อย สิ่งที่ตนกังวลมากที่สุดคือ คนเอเชียสูงวัยหลายคนไม่รู้ภาษา พอเกิดเหตุร้ายแรงก็ไม่กล้าคุยกับตำรวจ เพราะกลัวคุยไม่รู้เรื่อง
"อยากฝากให้ทุกๆคนโดยเฉพาะคนไทยว่า ไม่ว่าทักษะภาษาดี หรืไม่ ให้เปิดใจคุยกับตำรวจก่อน ถ้าต้องใช้ล่ามจริงๆ ก็จะพยายามช่วย แต่อย่าเงียบ เพราะถ้าเงียบ คดีจะไม่คืบหน้าแน่ๆ" แกรี่กล่าว
ขณะที่แซม ชาวกัมพูชาในซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่มองว่า คนเอเชียรุ่นใหม่มีหัวคิดก้าวหน้าและกล้าเคลื่อนไหวผ่านสังคมออนไลน์ การเดินขบวนตามท้องถนน ตลอดจนทำกิจกรรมที่หลากหลาย และอยากให้เพิ่มกรณีเหยื่ออาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังชาวเอเชีย เป็นกรณีศึกษาในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเข้าไปด้วย
ส่วนกรณีนายวิชา เป็นอีกประเด็นที่ตนอยากร่วมสนับสนุนคือ เหตุการณ์อาชญากรรมที่เกิดกับคนวัยชราสูงขึ้น ไม่ว่าจะเกิดกับคนชาติใด ตนมองว่าไม่ควรมี กรณีลุงวิชาควรเป็นกรณีสุดท้าย เพราะคนชราเปราะบาง ความปลอดภัยบนท้องถนนในชุมชนควรมีมากกว่านี้ ผู้บริหารควรมีความเข้มงวดมากกว่านี้ ซึ่งเรื่องความปลอดภัยดังกล่าวซานฟรานซิสโก ล้มเหลว
มีรายงานด้วยว่า อาชญากรรมที่เกิดขึ้นต่อชาวเอเชียในเมืองซานฟรานซิสโกที่มีประชากรอาศัยราว 875,000 คน สูงถึง 567% หรือจาก 9 คดีในปี 2020 เพิ่มขึ้นเป็น 60 คดีในปี 2021
ตำรวจเมืองซานฟรานซิสโกชี้ว่า คดีการทำร้ายและคุกคามชาวเอเชียนั้นถูกพบว่ามีการรายงานต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่รายงานการทำร้ายชาวเอเชียทั่วสหรัฐฯ ระหว่างมีนาคม ปี 2020 ไปถึงมิถุนายนปี 2021 เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 9,000 คดี
ทั้งนี้จากข้อมูลสถิติของ FBI Updated 2020 ในคดีเหยื่อจากเหตุการณ์อาชญากรรมแสดงความเกลียดชังหรือการเหยียดเชื้อชาติ
มีเหตุการณ์อคติเดี่ยว 8,052 เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อ 11,126 คน
เปอร์เซ็นต์การกระจายเหยื่อตามประเภทอคติแสดงให้เห็นว่า 61.8% ของเหยื่อถูกกำหนดเป้าหมายเนื่องจากอคติทางเชื้อชาติ/ชาติพันธุ์/บรรพบุรุษของผู้กระทำความผิด
มีเหตุการณ์อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังแบบพหุอคติ 211 เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อ 346 คน
สถานที่ของอาชญากรรมแห่งความเกลียดชังในปี 2020
คดีลุงวิชา เกิดขึ้นเมื่อ นายอองตวน วัตสัน ชาวเมืองดาลี ซิตี้ วัย 19 ปี ก่อเหตุวิ่งข้ามถนนไปผลักนายวิชา จนล้มลงกับพื้นใกล้ย่าน อันซาวิสตา กับถนนฟอร์จูนา เมื่อเวลา 08:28 น. วันที่ 28 ม.ค. ทำให้ศีรษะของนายวิชากระแทกพื้น และเป็นสาเหตุให้เขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในวันเสาร์ที่ 30 ม.ค. และนายวัตสันถูกจับกุมในคืนวันเดียวกับที่นายวิชาเสียชีวิต หลังตำรวจออกปฏิบัติการตามหมายค้นที่บ้านในเมืองดาลี ซิตี้ โดยถูกนำตัวเข้ารับการไต่สวนในชั้นศาลครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ 3 ก.พ. 2564 โดยเขาให้การปฏิเสธข้อหา ฆาตกรรม และทารุณกรรมผู้สูงอายุ
ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ เตรียมตรวจสอบและสืบสวนในเชิงลึกต่อปัญหาอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกับชาวเชื้อสายเอเชีย โดยมีคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เช่น สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI และอัยการของรัฐบาลกลาง ประสานงานกับกับตำรวจท้องถิ่นในแต่ละรัฐ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในคดีอาชญากรรมที่สงสัยว่าอาจมีเหตุมาจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติ โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า คำสั่งดังกล่าวเพื่อมุ่งเน้นตอบสนองจากรายงานความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียโดยเฉพาะ
ขอคุณภาพจากทวิตเตอร์ Assessor-Recorder Joaquín Torres @SFjoaquintorres