บทเรียนน้ำมันดิบรั่ว หายนะ ระบบนิเวศทะเล

คราบน้ำมันที่รั่วไหลมากกว่าปี 2556 เกือบ 10 เท่า กินพื้นที่กว่า5หมื่นไร่ เเม้ขณะนี้ผ่านไป6วัน สามารถคุมสถานการณ์ได้เเล้ว เเละอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการตรวจสอบปริมาณน้ำมันรั่วที่เเท้จริง 6 หมื่นลิตร ตามที่บริษัทน้ำมันเเจ้งหรือไม่ ผลกระทบขณะนี้เกิดขึ้นหลายด้าน ทั้งชาวประมง แม้ค้าริมชายฝั่ง ระบบนิเวศทางทะเล ภาคธุรกิจท่องเที่ยว อย่างวงกว้าง

ที่ผ่านมาชาวประมงบางรายมองว่า สัตว์น้ำยังไม้ฟื้นตัว สัตวทะเลก็ลดลงไป ขณะที่ค่าชดเชยเยียวยา บางรายอยู่ระหว่างฟ้องร้องค่าเสียหายในชั้นฎีกา  ชาวประมงเปรียบทะเล เหมือนกับธนาคาร ที่เป็นเเหล่งอาหาร สร้างรายได้  เยียวยาเท่าไหร่ก็ไม่คุ้ม

การเฝ้าระระวังจากนี้ ใช้ระเวลาถึง 3 ปี ทรัพยากรทางทะเลที่เสียหาย ทำการการท่องเที่ยวที่เสียหายหนัก ผู้ประกอบการมองว่า หากทรัพยากรถูกทำลายนักท่องเที่ยวก็ไม่มาเกาะเสม็ด จึงมีการเสนอให้เเก้กฎหมายเอาผิด ให้ชัดเจนมากขึ้น

นอกจากความเสียหายกับการท่องเที่ยว การบริโภคอาหารทะเล เป็นอีกหนึ่งปัญหาหนึ่ง เเต่ก็ได้รับคำยืนยันว่า ปัจจุบัน อาหารทะเล มาจากประมงพื้นบ้านมีน้อยลง ส่วนใหญ่จะมาจากฟาร์มทางใต้ เเละสมุทรสาคร

การจัดการปัญหาที่รวดเร็วของกองทัพเรือภาคที่ 1 นำบทเรียนในปี 2556 มาใช้ เเต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ เเละ เเหล่งทำกินชาวบ้าน ยังเป็นปัญหาที่ยังถูกตั้งคำถามความรับผิดชอบ ต่อบริษัทน้ำมันที่อยากให้เร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเเก้ไขระยะยาวที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก