จากกรณีที่บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้รับอนุมัติใบอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ 4 ฉบับ ในพื้นที่เหมืองทองคำชาตรี จากรัฐบาลไทย อายุประทานบัตร 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.64
ทำให้กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เดินทางเข้าเรียกร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีนายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นผู้รับเรื่องจากนางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ พร้อมตัวแทนกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เพื่อขอให้สอบสวนดำเนินคดีเอาผิดกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกรณีการอนุญาตประทานบัตร ทำเหมืองแร่ทองคำให้กับบริษัทอัครารีซอร์สเซสจำกัด ( มหาชน) โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
เนื่องจากคำขอต่ออายุประทานบัตรทั้งหมดเป็นคำขอที่บริษัทฯ ได้ยื่นไว้ตามพระราชบัญญัติแร่พ.ศ.2510 และพระราชบัญญัติ แร่ พ.ศ.2560 ในพื้นที่ประทานบัตรเดิม และต่อมาได้ยื่นเอกสารประกอบคำขอเพิ่มเติมตามที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติแร่พ.ศ.2560 รวมทั้งได้ดำเนินการตามกรอบนโยบายบริหารจัดการแร่ทองคำด้วยแล้วฯ
ทั้งนี้ การอนุญาตปัจจุบันอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายพระราชบัญญัติแร่ 2560 ซึ่งต้องประกาศเขตแหล่งแร่ตามมาตรา 19 และต้องนำพื้นที่ประกาศเปิดประมูลให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ตามมาตรา 21 โดยกฎหมายมิได้เปิดช่องอื่นให้มีการงดเว้นเพื่อไม่ให้ดำเนินการตามมาตรา 19 และมาตรา 21 ได้
ดังนั้น การอนุญาตให้บริษัทอัคราฯ ได้รับอาชญาบัตร และประทานบัตร จึงเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย โดยถึงแม้ว่าบริษัทอัคราฯ จะเคยเป็นผู้ยื่นคำขอเดิมไว้ ทำให้ได้รับการคงสิทธิ์เดิมตามมาตรา 188 แต่การอนุญาตอาชญาบัตรหรือประทานบัตร จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 อันหมายถึงต้องปฏิบัติตามมาตรา 19 และมาตรา 21