เมื่อดูจำนวนส.ส. จะเห็นภาพความสุ่มเสี่ยงชัดเจนที่สุด
ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลคะแนนเสียงรวมทั้งหมดเมื่อหัก 20 เสียงออกไป ทั้งสิ้น 247 เสียง ซึ่งขณะนี้ฝ่ายค้านคะแนนเสียงรวมทั้งสิ้น 208 เสียง ถ้านับรวม 20 เสียง รวมทั้งสิ้น 228 เสียง ห่างกันเพียงแค่ 19 เสียง ซึ่งยังไม่รวมกับพรรคเล็ก สมการจะเปลี่ยนทันที
ตอนนี้ตัวแปรพรรคเล็กถือว่าสำคัญมาก ซึ่งพรรคเล็กทั้งหมดที่ทำงานมาสี่ปี รอบนี้จะมีราคาค่างวดมาก ขณะนี้พรรคเล็ก 10 เสียงอยู่ฝ่ายผู้กองธรรมนัสประมาณ 6 เสียง ต้องการอีกเพียงแค่ 3 เสียง
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างดึงพรรคเล็กให้เข้ามาอยู่ในกลุ่มของตนเอง ในขณะเดียวกัน 97 เสียงของพรรคพลังประชารัฐก็อ่อนแอเช่นเดียวกัน แบ่งออกเป็นหลายก๊ก หลายเหล่า
คุณวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่า ผมถึงเคยพูดตั้งแต่ตอนตั้งรัฐบาลเมื่อสองปีที่แล้วว่า รัฐบาลเป็นเรือเหล็ก แต่เป็นเรือลำเล็ก และสนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน มันไม่ได้มาจากฝ่ายค้านหรอก
Q : นายกฯ จะใช้วิธีลาออกเพื่อแก้ปัญหาได้หรือไม่?
วิษณุ : ได้ แต่จะแก้ปัญหาอะไร เลือกนายกฯ ใหม่ สภายังเป็นสภาเดิม
ใครจะย้ายพรรค ยุบพรรค ไม่ไต้ทั้งนั้น
Q :เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลลดลงจะทำให้รัฐบาลลั่นคลอนหรือไม่?
วิษณุ : ตนตอบไม่ถูก แม้เสียงหายไป รวมกับพรรคร่วมรัฐบาล รัฐบาลก็คือเสียงข้างมากเป็นรัฐบาลได้ และไม่ได้เรียกว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย
Q : นายกฯ ได้ปรึกษาข้อกฎหมาย อย่างไรหรือไม่?
วิษณุ : ไม่ได้หารือ เชื่อว่ายังไม่มีใครตอบอะไรได้ เพราะทุกคนกำลังอ่านเกม-กติกาอยู่ และหาทางออก
Q : รัฐบาลอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงได้หรือไม่?
วิษณุ : "ใช่"
Q : พร้อมที่จะเกิดอุบัติเหตุทุกเวลาใช่หรือไม่?
วิษณุ : "ใช่ครับ"
Q : นายกฯ จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวใช่หรือไม่?
วิษณุ : ทั้งนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะต้องรีบแก้ ผมเคยพูดตั้งแต่ตั้งรัฐบาลว่า รัฐบาลเป็นเรือเหล็ก แต่เป็นเรือลำเล็ก และสนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน มันไม่ได้มาจากฝ่ายค้านหรอก
Q : นายกฯ อยู่ในสภาวะที่หนักหน่วงใช่หรือไม่?
วิษณุ : "อือ"
และอีกหนึ่งปัญหาที่สะท้อนออกมาว่าสภาไม่เป็นมิตร และรัฐบาลกำลังอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงจากการทำหน้าที่ของส.ส. ที่โหวตนายกในสภา
เปิดสถิติสภาล่ม
ปี 2562
ปี 2563
ปี 2564
ปี 2565
หากสภาล่มอยู่เรื่อยๆ ประชาชนจะละอาใจ ขอสภาคือผู้แทนที่ประชาชนเลือกไปทำหน้าที่แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ รัฐบาลมีหน้าที่บริหารประเทศเพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหาตรงจุดนี้
กฎหมายสำคัญต่างๆที่รอเข้าสภาและจะเป็นแรงกดดันให้รัฐบาลส่งเสียง
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีฯ 2566 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในสมัยประชุมหน้า
กฎหมายจะผ่านหรือไม่ต้องไปรอลุ้น แต่หากรัฐบาลยังเป็นเช่นนี้พรรคฝ่ายค้านสู้ตาย เพราะคือเป้าหมายที่จะทำให้รัฐบาลหมดสภาพในเชิงอำนาจและนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่
ถ้าหากลุงตู่ไม่ยุบสภา ไม่ปรับครม.และจะสู้ต่อสิ่งที่จะต้องเจอ คือ
23 สิงหาคม 2565 ครบ 8 ปี นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หลายคนบอกว่าถ้าจะสู้ต่อเช่นนี้ยุบสภาเลยดีกว่า ต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกk (มาตรา 108 วรรคสอง) เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต้องกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ
พล.อ.ประยุทธ์ หักดิบตัดเส้นทางกบฎ จัดให้มีการเลือกตั้งใน 45 วัน
เสียงสนับสนุนในสภาไม่เป็นมิตร ฟปชร. 97 เสียง // เศรษฐกิจไทย 21 เสียง // ประชาธิปัตย์ 49 เสียง // ภูมิใจไทย 59 เสียง // เศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง // ชาติไทยพัฒนา 12 เสียง // พรรคเล็ก 24 เสียง
สถานะของรัฐบาลตอนนี้เดินมาถึงจุดเสี่ยงที่จะนำไปสู่การยุบสภา เกิดคำถามว่า ถ้าจะยุบสภาจะหยุดช่วงไหน ? ประมาณเดือนพ.ค. - มิ.ย. จุดเสี่ยงยุบสภา
มีนักวิชาการประเมินว่า ตอนนี้ไม่ใช่ไทม์มิ่งในการยุบสภา
รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ บอกว่า การยุบสภาจะไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้แน่ ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่พร้อม ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ต่อให้พ้นสถานการณ์โควิดไปแล้ว การชุมนุมกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก หรือ ยุบสภา ถึงเวลานี้จุดติดยาก
รศ.ตร.ยุทธพร อิสรชัย อ.คณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช บอกว่า การเมืองปี 2565 มี 4 เรื่องที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ ท่าทีของนายกฯ ที่อาจประกาศลาออก หรือยุบสภา คำวินิจฉัยของศาลรธน.ปมการดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8 ปี และการเกิดรัฐประหาร ล้วนเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองทั้งสิ้น
ที่มา เนชั่นอินไซต์ โอ-บากบั่น บุญเลิศ , วี-วีระศักดิ์ พงศ์อักษร