เมื่อก่อนถ้างัดข้อในสภาเสียงส.ส.ในสภาจะมีพรรคเดียว คือพลังประชารัฐจะเอาอย่างไร ต่อไปเกมในสภาลุงตู่ต้องเช็ก 2 พรรค คือพรรคเศรษฐกิจไทยด้วย เพราะการแตกแยกออกเป็นสองพรรค ทำให้พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งคือกลุ่มของผู้กองธรรมนัส มีอำนาจต่อรองมากกว่าที่อยู่ในพลังประชารัฐ งั้นแรงกดดันต่อลุงตู่จึงมากกว่าเดิม คำถามที่ตามมาคือ ทางออกจากวิกฤตินี้ลุงตู่จะจัดการอย่างไร
ทางออกมีสองทาง 1.ยุบสภา เพราะปัญหาการเมืองและพรรคที่สนับสนุนตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นมีความแตกแยกอย่างรุนแรง 21 คน ไม่หนุนลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งการอะไรไม่ได้ ทำงานลำบาก 2.สู้ต่อไป เดินหน้าต่อแบบไม่ปรับครม. และเดินหน้าต่อแบบปรับครม.
เปิดโครงสร้าง พรรคเศรษฐกิจไทย
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองหัวหน้าพรรค
อภิชัย เตซะอุบล เลขาธิการพรรค
กลุ่มนายทุน
จำนวนส.ส. 21 คน เดิมทีเรียกร้องขอ 2 รัฐมนตรีช่วย แต่ตอนนี้ขอรัฐมนตรี ผลที่ตามมาตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาล มีจำนวน 246 พรรคฝ่ายค้าน มีจำนวน 208 เพราะฉะนั้นแรงกดดันตอนนี้จะมีปัญหามาก
นายกรัฐมนตรีออกมาชี้แจงว่า ผมบอกไม่ได้ว่าใครดี ไม่ดี แต่ให้ประชาชนคัดกรองเอา ตัดสินใจในครั้งต่อไป พร้อมยืนยันว่าเพราะกฎหมายสำคัญก็ยังไม่เสร็จ อย่าเอามารวมกัน จะรักใครชอบใคร ผมพูดไม่ได้
ขอบคุณประชาชนที่เชื่อมั่น-เชื่อถือ ซึ่งผมได้วางอนาคตไว้พอสมควร โดยเฉพาะแก้ปัญหาที่หมักหมมเป็นภาระของผมที่ทำงานใหม่ ๆ ออกมาได้ช้าโดยต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่และข้าราชการด้วย ซึ่งผมเข้าไปลงรายละเอียดในทุกเรื่อง อะไรติดขัดตรงไหนก็พร้อมสั่งการเพิ่มเติมให้ ไม่เคยว่างเว้นการทำงาน
และตอนนี้ไม่ใช่ 21 คน ที่ไปตั้งหลักในบ้านหลังใหม่พร้อมกับข้อเสนอ ถ้าจะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ในการทำหน้าที่บริหารประเทศต้องแลกกับเก้าอี้รัฐมนตรี และยังมีพรรคเล็กที่เดิมเคยสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐและชูลุงตู่เป็นนายก ตอนนี้ในกลุ่มพรรคเล็กกำลังวุ่นวายว่าจะไปอยู่ฝั่งไหน
พรรคเล็กสนับสนุน พลเอกประยุทธ์
รวม 12 เสียง
ส่วน 7 พรรคเล็ก
เพราะฉะนั้นในสภาวะที่เป็นเช่นนี้ ลุงตู่คิดหนัก และตัวเลือกทางออกของปัญหาก็มีอยู่แค่นี้
ปรับครม.
เศรษฐกิจไทย ขอ 2 เก้าอี้
รัฐมนตรีโดนลูกหลง
เมื่อเวลาประมาณบ่าย 3โมงครึ่ง (20 ม.ค. 65) มีการยื่นคำขาดข้อเสนอเงื่อนไขใหม่ ขอเก้าอี้กระทรวงพลังงานแลกกับการอยู่พรรคร่วมรัฐบาล
กระทรวงพลังงานเป็นกระทรวงใหญ่ และตอนนี้โควต้านั้นคือโควต้าคนนอก คือ คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ต้องบอกว่าเรื่องนี้ผู้กองธรรมนัสและบิ๊กน้อยคิดการใหญ่ เป็นการยื่นเงื่อนไขที่เหมือนต้องการให้อีกฝั่งปฏิเสธ
ถ้าไม่ยุบสภา เดินหน้าต่อจะทำอย่างไร เดินหน้าต่อลุงตู่จะต้องเข้าสู่โหมดคิลลิ่งโซน เพราะช่วงพ.ค. จะมีศึกซักฟอก และ 23 ส.ค. ครบวันที่ดำรงตำแหน่ง 8 ปี เพราะฉะนั้นสองช่วงจังหวะทางการเมือง จะเป็นช่วงจังหวะสำคัญอีกครั้ง แต่ตอนนี้ต้องผ่านด่านนี้ไปก่อน
ที่มา เนชั่นอินไซต์ โอ- บากบั่น บุญเลิศ , วี-วีระศักดิ์ พงศ์อักษร