18 มกราคม 2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึง กรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐทยอยลาออก เพื่อไปร่วมพรรคการเมืองใหม่กับนายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีคนลาออก แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับนายอุตตม ที่ได้ทำพรรคการเมืองใหม่ และเชื่อว่าคนที่ลาออกไปก็เป็นคนที่สนิทกับนายอุตตมอยู่แล้ว เป็นคนกลุ่มเดียวกันที่เข้ามาในพรรคตั้งแต่แรก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะออกไปอยู่ด้วยกัน และมีความเป็นไปได้ที่จะมีคนในพรรคทยอยลาออกอีก
“ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นธรรมดาทางการเมือง พวกใครพวกมันอย่าคิดมาก มันก็มีคนเข้าออกธรรมดา ทุกพรรคเป็นเหมือนกัน เดี่ยวตอนใกล้เลือกตั้งมีย้ายกันเยอะกว่านี้อีก ใจเย็นๆ” นายชัยวุฒิ กล่าว
ส่วนกระแสรอยร้าวภายในพรรคพลังประชารัฐ หลังการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ภาคใต้นั้น นายชัยวุฒิ ชี้แจงว่า ไม่ถึงกับเป็นร้อยราว แต่ต้องมาประเมินความผิดพลาดกันว่า มีอะไรที่เป็นจุดอ่อน หรือสิ่งที่ทำแล้วไม่ดี เพื่อจะได้แก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีการพูดคุยกัน สิ่งใดไม่ดีก็ตักเตือนแก้ไขกัน ไม่ได้เป็นความขัดแย้งอะไร
ขอแกนนำอย่าโทษกันไปมาเลยดีกว่า เพราะภาคใต้เป็นฐานเสียงที่มั่นของพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว และผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นคนที่ประชาชนในพื้นที่คุ้นเคย เป็นนักการเมืองในพื้นที่ ดังนั้นการที่พรรคพลังประชารัฐแพ้ ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่พรรคเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ตัวของผู้สมัครด้วย ไม่เหมือนกรุงเทพฯ ที่เราเป็นแชมป์เก่า เป็นเจ้าของพื้นที่เดิม และก็มีฐานเสียงที่ดีกว่า ก็มีโอกาสที่จะชนะมากกว่า
นายชัยวุฒิ กล่าวต่อ การพ่ายแพ้ในพื้นที่ภาคใต้นั้นส่งผลมาถึงกรุงเทพฯด้วย แต่เป็นการส่งผลดี เพราะภาคใต้เป็นตัวอย่างได้ชัดเจนว่าคะแนนของพรรครัฐบาลมีคะแนนนิยมสูงขึ้น มีคนเลือกตั้งมากขึ้น แสดงว่าสิ่งที่รัฐบาลทำมานั้น ประชาชนยอมรับ จนทำให้มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น และคิดว่าที่กรุงเทพฯก็จะเกิดขึ้นเหมือนกัน
“ไม่กังวลกับการเลือกตั้งในพื้นที่หลักสี่-จตุจักร ที่หลายพรรคระดมบุคคลสำคัญลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มองว่าเป็นเรื่องดี เป็นประชาธิปไตย ที่ทุกคนลงพื้นที่มาหาเสียง เสนอตัวและนโยบายให้ประชาชนเป็นตัวเลือก อย่างไรก็ตามพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล เป็นพรรคหลักที่ประชาชนรู้จักคุ้นเคยและมีความเชื่อมั่นอยู่แล้วจึงคิดว่ามีความได้เปรียบในการเลือกตั้งอยู่แล้ว”
ส่วนการปราศรัยใหญ่ ขณะนี้หารือกันอยู่ ยังไม่ได้ข้อสรุป ของแบบนี้ต้องเปิดใกล้ๆ ไม่ต้องรีบ และไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการปราศรัย เพราะพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัคร มีการสื่อสารกับประชาชนอยู่ตลอดเวลา จึงเชื่อว่าประชาชนรู้จักและรู้อยู่แล้วว่าจะเลือกพรรคไหน จะเลือกใคร เพราะเหตุอะไร การปราศรัยจึงไม่ใช่ตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจของประชาชน การปราศัยในแต่ละครั้ง ก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการกำชับให้ผู้ปราศรัยอย่ากระทำผิดผิดกฎหมาย อย่าพูดอะไรที่จะทำให้โดนฟ้องร้อง และที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการปราศรัยที่จะมีคนชอบหรือไม่ชอบ
โดยเช้าวันนี้นายชัยวุฒิ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งกทม.ของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร ลงพื้นที่ตลาดเช้ามาร์เก็ตทูเดย์บริเวณปากซอยวิภาวดี 64 เพื่อทักทายแนะนำตัว และขอคะแนนเสียงสนับสนุนจากประชาชน
โดยนางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีจุดประสงค์เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน และดูแลอย่างทั่วถึง รวมถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความไว้ใจ อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้ยังต้องการที่จะทำสิ่งที่ดีให้กับประชาชนต่อไป จึงขอให้สนับสนุนรัฐบาลเพื่อรับใช้ประชาชนต่อไป