svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

บิ๊กผู้พิพากษาจ่าย 1 หมื่นบ. ชดใช้หนุ่มกู้ภัยฯ อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด

31 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เคลียร์ลงตัว! รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาฯ ​ยอมจ่ายเงินสด 10,000 บาท ชดใช้ค่าเสียหาย​ให้หนุ่มกู้ภัย กรณีคลิปฉาวโลกโซเชียล​ ด้านผกก.สภ.เมือง​เชียงใหม่​ เผย​จบกันด้วยดี ชี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด​ ส่วนกรณีไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์​ อยู่ระหว่าง​ตรวจสอบ

31 ธันวาคม 2564 ​ความ​คืบหน้า​กรณี​นายไพโรจน์ พรหมธารา อายุ 32 ปี เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับ นายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 โดยเหตุ​เกิด​เมื่อคืนวันที่ 28 ธันวาคม​ ที่ผ่านมา​ และกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์​ในโลกออนไลน์​​

 

บิ๊กผู้พิพากษาจ่าย 1 หมื่นบ. ชดใช้หนุ่มกู้ภัยฯ อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.​วันที่​ 31 ธันวาคม​ 2564 นายไพโรจน์ พรหมธารา ได้เดินทางเข้ามาพบกับ พ.ต.อ.ภูว​นาท​ ดวงดี ผกก.สภ.เมือง​เชียงใหม่​ และพนักงาน​สอบสวน​ สภ.เมือง​เชียงใหม่​ที่ สภ.เมือง​เชียงใหม่ และนนายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ ได้เดินทางตามเข้ามาในเวลาต่อมา เพื่อเจรจา​ไกล่เกลี่ย​ค่าเสียหาย​ที่เกิดขึ้น​ ตามที่พนักงาน​สอบสวน​สภ.เมือง​เชียงใหม่​ ติดต่อให้มาตกลงกันในวันนี้

 

บิ๊กผู้พิพากษาจ่าย 1 หมื่นบ. ชดใช้หนุ่มกู้ภัยฯ อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด

 

การไกลเกลี่ยใช้เวลาในการเจรจาไกล่เกลี่ย​ทั้งหมดประมาณ​ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้น พ.ต.อ.ภูว​นาท​​​ และ นายไพโรจน์ ​ ได้ออกมาให้สัมภาษ​ณ์กับสื่อมวลชน ขณะที่​นายชาญศักดิ์ ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษ​ณ์กับสื่อมวลชน​แต่อย่างใด

 

บิ๊กผู้พิพากษาจ่าย 1 หมื่นบ. ชดใช้หนุ่มกู้ภัยฯ อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด

พ.ต.อ.ภูว​นาท​ ดวงดี ผกก.สภ.เมือง​เชียงใหม่​ กล่าวว่า หลังการเจรจาไกล่เกลี่ยกันทั้ง 2 ฝ่าย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และจากการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น อาจเกิดจากความเข้าใจผิดของทั้ง 2 ฝ่าย

 

เนื่องจากในวันเกิดเหตุ รถของคู่กรณีได้ไปเฉี่ยวชนกับรถตุ๊กตุ๊ก และได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับทางด้านคนขับรถตุ๊กตุ๊ก แล้วว่าจะมาไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ แต่ระหว่างนั้นทางด้านของกู้ภัย กำลังไปเอารถแล้วทางคู่กรณีขับรถออกจากที่เกิดเหตุพอดี ทำให้ทางด้านกู้ภัยเข้าใจผิดว่าจะขับรถหลบหนี จึงได้ขับรถติดตาม จนเกิดเฉี่ยวชนกันขึ้น และเกิดการโต้เถียงกันตามคลิป ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความตั้งใจของกู้ภัยในการปฏิบัติหน้าที่

 

บิ๊กผู้พิพากษาจ่าย 1 หมื่นบ. ชดใช้หนุ่มกู้ภัยฯ อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด

 

ขณะเดียวกันจากการพูดคุยกับทางคู่กรณีในวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี และในวันนั้นจะเดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยที่สถานีตำรวจ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะคิดว่าเป็นความตั้งใจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในการปฏิบัติหน้าที่ และยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย

 

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าคู่กรณีมีลักษณะพูดจามึนเมานั้น ทางเจ้าตัวบอกว่าเป็นคนที่มีลักษณะเช่นนั้นอยู่แล้ว 

 

บิ๊กผู้พิพากษาจ่าย 1 หมื่นบ. ชดใช้หนุ่มกู้ภัยฯ อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด

 

อย่างไรก็ตามเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความเสียหายที่เกิดเหตุขึ้นกับทรัพย์สิน และไม่มีผู้บาดเจ็บหนัก หรือถึงขั้นเสียชีวิต โดยเรื่องของความผิดสามารถว่ากล่าวตักเตือนกันได้ และในส่วนของที่คู่กรณีไปชนกับรถตุ๊กตุ๊ก ได้มีการดำเนินการไปแล้ว

 

ส่วนเรื่องข้อเท็จจริงที่ว่าทางคู่กรณีมีอาการมึนเมาหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการปฏิเสธ​เป่าแอลกอฮอล์​ ต้องไปตรวจสอบกับร้อยเวรเจ้าของ​คดีในคืนนั้นว่า ข้อเท็จจริง​เป็นอย่างไร

 

 

บิ๊กผู้พิพากษาจ่าย 1 หมื่นบ. ชดใช้หนุ่มกู้ภัยฯ อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด

 

ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ยืนยันว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยสิ่งที่ผิดว่ากันไปตามผิด และขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากในการพิจารณาดำเนินคดีกับใครต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานหากพบว่ามีความผิดจริง จะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ในส่วนของกรณีที่เข้าใจผิดกันของทั้ง 2 ฝ่าย ก็ได้พูดจากันจนเข้าใจในที่สุดแล้ว และทั้ง 2 ฝ่ายยินยอมไม่ติดใจเอาความกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว

 

บิ๊กผู้พิพากษาจ่าย 1 หมื่นบ. ชดใช้หนุ่มกู้ภัยฯ อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด

 

ด้าน นายไพโรจน์ พรหมธารา กล่าวว่า ภายหลังการเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีว่า หลังจากการเข้าพูดคุยกับทางคู่กรณีในวันนี้ ตนรู้สึกพอใจ และไม่ติดใจเอาความกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีความโกรธเคืองกันมาก่อน

 

ในส่วนของการชดใช้ค่าเสียหายนั้น ทางคู่กรณีได้มอบเงินสดให้ตน 10,000 บาท เป็นค่าซ่อมรถ 8,000 บาท และค่าเสียเวลา 2,000 บาท

 

ในส่วนของกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ไปในโลกสังคมออนไลน์นั้น ทางด้านคู่กรณีไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ตนจะนำรถไปซ่อม และปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนขอจบด้วยดีในที่สุด

 

ภาพ/ข่าว โดย เกรียงไกร รัตนา

 

 

logoline