31 ธันวาคม 2564 ความคืบหน้ากรณีนายไพโรจน์ พรหมธารา อายุ 32 ปี เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับ นายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา และกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 31 ธันวาคม 2564 นายไพโรจน์ พรหมธารา ได้เดินทางเข้ามาพบกับ พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ และนนายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ ได้เดินทางตามเข้ามาในเวลาต่อมา เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ตามที่พนักงานสอบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ ติดต่อให้มาตกลงกันในวันนี้
การไกลเกลี่ยใช้เวลาในการเจรจาไกล่เกลี่ยทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้น พ.ต.อ.ภูวนาท และ นายไพโรจน์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะที่นายชาญศักดิ์ ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังการเจรจาไกล่เกลี่ยกันทั้ง 2 ฝ่าย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และจากการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น อาจเกิดจากความเข้าใจผิดของทั้ง 2 ฝ่าย
เนื่องจากในวันเกิดเหตุ รถของคู่กรณีได้ไปเฉี่ยวชนกับรถตุ๊กตุ๊ก และได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับทางด้านคนขับรถตุ๊กตุ๊ก แล้วว่าจะมาไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ แต่ระหว่างนั้นทางด้านของกู้ภัย กำลังไปเอารถแล้วทางคู่กรณีขับรถออกจากที่เกิดเหตุพอดี ทำให้ทางด้านกู้ภัยเข้าใจผิดว่าจะขับรถหลบหนี จึงได้ขับรถติดตาม จนเกิดเฉี่ยวชนกันขึ้น และเกิดการโต้เถียงกันตามคลิป ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความตั้งใจของกู้ภัยในการปฏิบัติหน้าที่
ขณะเดียวกันจากการพูดคุยกับทางคู่กรณีในวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี และในวันนั้นจะเดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยที่สถานีตำรวจ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะคิดว่าเป็นความตั้งใจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในการปฏิบัติหน้าที่ และยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าคู่กรณีมีลักษณะพูดจามึนเมานั้น ทางเจ้าตัวบอกว่าเป็นคนที่มีลักษณะเช่นนั้นอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความเสียหายที่เกิดเหตุขึ้นกับทรัพย์สิน และไม่มีผู้บาดเจ็บหนัก หรือถึงขั้นเสียชีวิต โดยเรื่องของความผิดสามารถว่ากล่าวตักเตือนกันได้ และในส่วนของที่คู่กรณีไปชนกับรถตุ๊กตุ๊ก ได้มีการดำเนินการไปแล้ว
ส่วนเรื่องข้อเท็จจริงที่ว่าทางคู่กรณีมีอาการมึนเมาหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการปฏิเสธเป่าแอลกอฮอล์ ต้องไปตรวจสอบกับร้อยเวรเจ้าของคดีในคืนนั้นว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ยืนยันว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยสิ่งที่ผิดว่ากันไปตามผิด และขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากในการพิจารณาดำเนินคดีกับใครต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานหากพบว่ามีความผิดจริง จะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ในส่วนของกรณีที่เข้าใจผิดกันของทั้ง 2 ฝ่าย ก็ได้พูดจากันจนเข้าใจในที่สุดแล้ว และทั้ง 2 ฝ่ายยินยอมไม่ติดใจเอาความกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ด้าน นายไพโรจน์ พรหมธารา กล่าวว่า ภายหลังการเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีว่า หลังจากการเข้าพูดคุยกับทางคู่กรณีในวันนี้ ตนรู้สึกพอใจ และไม่ติดใจเอาความกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีความโกรธเคืองกันมาก่อน
ในส่วนของการชดใช้ค่าเสียหายนั้น ทางคู่กรณีได้มอบเงินสดให้ตน 10,000 บาท เป็นค่าซ่อมรถ 8,000 บาท และค่าเสียเวลา 2,000 บาท
ในส่วนของกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ไปในโลกสังคมออนไลน์นั้น ทางด้านคู่กรณีไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ตนจะนำรถไปซ่อม และปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนขอจบด้วยดีในที่สุด
ภาพ/ข่าว โดย เกรียงไกร รัตนา