นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในปีหน้า 2565 ว่า ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะยังไม่ได้ถอดหน้ากากอนามัย เนื่องจากสายพันธุ์เดลต้ายังคงมีอยู่และอาจมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ในขณะที่สายพันธุ์โอมิครอน ยังคงแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมาแทนที่เดลต้าอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ การผสมกันของทั้งสองสายพันธุ์ รวมถึงการเกิดสายพันธุ์ใหม่ๆ
ทั้งนี้ให้จับตาในช่วงหลังวันวาเลนไทน์ปีหน้า (14 ก.พ.2565) ตามช่วงเวลาหน่วงของวงจรไวรัส หากโชคดี โควิดจะจบลงในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากโชคร้ายอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่วนนโยบาย “Covid Safe Area” มองว่าสามารถทำได้ หากเป็นที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเท แต่ต้องไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ส่วนจะถอดหน้ากากได้เมื่อไหร่นั้น จำนวนผู้ติดเชื้อต้องลดลงต่อเนื่องจนกลายเป็นศูนย์ และต้องไม่มีการระบาดเพิ่ม โดยภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้ทำให้โควิดจบลง พร้อมยืนยันว่าโควิดไม่ใช่โรคกระจอกเหมือนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุ โดยเฉพาะ “Long Covid” ที่มีผู้ติดเชื้อป่วยเป็นจำนวนมาก และใช้เวลารักษานาน บางรายร่วมปี
นพ.ธีระวัฒน์ เห็นด้วยกับการจัดงานปีใหม่ของภาครัฐ ไม่ควรล็อกดาวน์ประเทศ เนื่องจากส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม พร้อมแนะนำให้คนไทยเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขด้วยความไม่ประมาท การ์ดอย่าตก และรักษาสุขอนามัยให้เป็นนิสัย แม้โควิดจะจบลงแล้วก็ตาม