svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

โอมิครอนลุกลามไปทั่วโลกติดเชื้อแล้ว 96 ประเทศ ยอดทะลุกว่า 62,000 ราย

20 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชวนคอข่าวมาอัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ในปัจจุบันนี้ระบาดทั่วโลกลุกลามแล้ว 96 ประเทศ ยอดติดเชื้อทะลุกว่า 62,000 ราย ล่าสุดสหราชอาณาจักรครองอันดับ 1

เกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน

อัปเดตรายงานสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งถูกตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ล่าสุด ณ เวลา 09.00 น. พบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ "โอมิครอน" ยอดสะสมรวมเป็น 62,254 ราย โดยพบการระบาดถึง 96 ประเทศทั่วโลก

 

โอมิครอนลุกลามไปทั่วโลกติดเชื้อแล้ว 96 ประเทศ ยอดทะลุกว่า 62,000 ราย

สำหรับ 10 อันดับแรกของโลกที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ได้แก่

สหราชอาณาจักร 37,101 ราย(+12,133)

เดนมาร์ก 15,452 ราย(+3,893)

นอร์เวย์ 2,060 ราย(-)

แอฟริกาใต้ 1,300 ราย(+53)

สหรัฐอเมริกา 1,030 ราย(+172)

แคนาดา 799 ราย(-)

อาเจนติน่า 454 ราย(-)

ฝรั่งเศส 347 ราย(-)

เอสโทเนีย 329 ราย(+87) และ

เยอรมนี 324 ราย(-)

นายโจ พาห์อาลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศแอฟริกาใต้ กล่าวว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถึงเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2564 แอฟริกาใต้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,465 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสมเป็น 3,308,074 ราย อยู่อันดับที่ 18 ของโลก ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายใหม่มี 3 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 90,348 ราย ซึ่งคาดว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะได้เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงมากขึ้น อัตราการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 
 

โอมิครอนลุกลามไปทั่วโลกติดเชื้อแล้ว 96 ประเทศ ยอดทะลุกว่า 62,000 ราย

 

ทางด้าน นางแคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา แถลงว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ถึงเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2564 (เวลาในนิวยอร์ก) พบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 รายใหม่ พุ่งทะยานสูงถึง 22,478 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา สำหรับสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เดิมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา สิ่งสำคัญ คือ มหานครนิวยอร์ก มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันถึง 12,404 ราย หรือ 55% ซึ่งมากที่สุดในรัฐนิวยอร์ก 

 

ขณะที่อัตราการแพร่ระบาดติดเชื้อในรัฐนิวยอร์กพุ่งสูงถึง 7.98% สาเหตุจากการระบาดของโรคโควิด-19 "สายพันธุ์โอไมครอน" และสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ที่สำคัญ การติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึง 2 เท่าในช่วง 2-3 วันผ่านมา 

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC รายงานว่า ขณะนี้ศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อยู่ที่รัฐนิวยอร์ค และรัฐนิวเจอซี่ สาเหตุจากจำนวนผู้ติดสายพันธุ์โอมิครอน" มีสูงถึง 13.1% ของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายวันในทั้ง 2 รัฐดังกล่าว 

 


ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดอย่างรุนแรงของสายพันธุ์โอมิครอนในรัฐนิวยอร์ก ทำให้ผู้จัดงานประกาศยกเลิก การแสดงดนตรีสดที่มีชื่อว่า คริสต์มาส สเปคทาคิวลาร์ ที่เรดิโอ มิวสิค ฮอลล์  ซึ่งเป็นงานฉลองเทศกาลคริสต์มาส ระดับประเทศสหรัฐอเมริกา
 

ขณะที่ในประเทศไทย ทางด้าน เลขาสมช. พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวถึงมาตราการช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า มาตราการในช่วงปีใหม่ได้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมุ่งเน้นไปที่การรวมตัวกันของคนจำนวนมาก และมีกิจกรรมการเคาท์ดาวน์ ซึ่งทางศบค.และ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรทว.กลาโหม มีความเป็นห่วงและมีการกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนว่า หากมีการรวมตัวกันเกินกว่า 1,000 คน แล้วจะมีมาตรการอะไรบ้าง หรือต่ำกว่า1,000 คน จะมีมาตรการอะไรบ้าง แต่มาตรการที่สำคัญ คือการป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นสูงสุด รวมไปถึงการรักษาระยะห่างและตรวจการรับวัคซีนว่าครบ2 เข็มหรือไม่ และการตรวจATK ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุขไปแล้วว่า ให้ใช้มาตรการเชิงรุกและนำ ATK มาเป็นเครื่องมือเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

  โอมิครอนลุกลามไปทั่วโลกติดเชื้อแล้ว 96 ประเทศ ยอดทะลุกว่า 62,000 ราย

ส่วนกรณีการเดินทางกลับภูมิลำเนาจะต้องตรวจหาเชื้อก่อนหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ ระบุว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละพื้นที่ ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดความเข้มข้นของมาตรการ ส่วนข้อจำกัด ความแออัด ระหว่างการเดินทางของรถโดยสารสาธาณะทางกระทรวงคมนาคมได้มีมาตรการออกไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับของศบค. แต่หากสถานการณ์แย่ไปกว่านี้ก็จะต้องออกมาตรการเพิ่มเติม 

logoline