ศบค. เผย 10 อันดับแรกผู้ติดเชื้อ กทม. ยังยืน 1 ปรับพื้นที่เฝ้าระวังเหลือ 3 สี

15 ธันวาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือศบค. แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ประจำวันที่ 15 ธันวาคม ว่า ผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัดอันดับแรก ได้แก่

• 1.กรุงเทพมหานคร 583 ราย สะสม 432,977 ราย
• 2.ชลบุรี 172 ราย สะสม 110,003 ราย
• 3.นครศรีธรรมราช 150 ราย สะสม 45,311 ราย
• 4.สมุทรปราการ 140 ราย สะสม 130,499 ราย
• 5.สงขลา 135 ราย สะสม 64,232 ราย
• 6.ปัตตานี 17 ราย สะสม 47,624 ราย
• 7.สุราษฎร์ธานี 97 ราย สะสม 27,616 ราย
• 8.เชียงใหม่ 89 ราย สะสม 28,040 ราย
• 9.ปราจีนบุรี 76 ราย สะสม 26,262 ราย
• 10.ตรัง 71 ราย สะสม 17,019 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 3,370 ราย ติดเชื้อในประเทศ 3,239 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 20 ราย จากเรือนจำที่ต้องขัง 111 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,149,413 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,178,276 ราย หายป่วย 4,557 รายหายป่วยสะสม 2,083,275 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 29 คน เสียชีวิตสะสม 21,166 คน คิดเป็น 0.98% ผู้ป่วยรักษาอยู่ 46,315 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 23,129 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 2300 23,186 ราย อาการหนัก 1,018 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 277 ราย

ผู้ได้รับวัคซีน ฉีดแล้ว 98,046,970 โดส เข็มที่หนึ่งเพิ่มขึ้น 114,675 ราย สะสม 50,095,106 ราย เข็มที่สองเพิ่มขึ้น 181,505 ราย สะสม 43,643,486 ราย เข็มที่สามเพิ่มขึ้น 96,936 ราย สะสม 4,308,778 ราย

ผู้เสียชีวิต 29 ราย เป็นกรุงเทพมหานคร 3 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ รวม 4 รายแม่ฮ่องสอน ชัยนาท อุตรดิตถ์ รวม 3 ราย นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง สตูล ตรัง รวม 12 ราย ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง ลพบุรี สระแก้ว รวม 6 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 23 ราย ชาวไทย 28 ราย เมียนมา 1 ราย ค่ามัธยฐานของอายุ 80 ปี (23 ถึง 93 ปี) ค่ามัธยฐานทราบติดเชื้อถึงเสียชีวิต 7 วันนานสุด 50 วัน อายุ 60 ปี ขึ้นไป 23 ราย คิดเป็น 79% อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 18% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย คิดเป็น 3% หญิงตั้งครรภ์ 1 ราย อายุ 43 ปี จังหวัดชลบุรี มีโรคประจำตัวเบาหวานไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

คลัสเตอร์ที่ยังมีการแพร่ระบาด มีทั้งโรงงาน สถานประกอบการ ตลาด ค่ายทหาร งานศพ ร้านอาหาร มีรายงานต่อเนื่อง ศบค. มีความห่วงใย โดยเฉพาะการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน ซึ่งอาจจะพบมากขึ้นในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวนี้ได้ ซึ่งกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นอย่างมากคือ การติดเชื้อในตลาดและการติดเชื้อในร้านอาหาร ประเภทร้านหมูกระทะ ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงคือการรับประทานจากกระทะเดียวกันและใช้เวลานาน ทำให้เสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น

แพทย์หญิงสุมนี กล่าวว่า จากการผ่อนคลายมาตรการล่าสุดซึ่งจะมีผลในวันที่ 16 ธันวาคม มีการปรับระดับพื้นที่เหลือแค่สามสี คือ พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง และพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามทุกพื้นที่ต้องเน้นย้ำมาตรการป้องกันควบคุมโรค และใช้มาตรการที่มีรายละเอียดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 37 และย้ำว่ามติในที่ประชุมวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้อนุญาตให้มีการจัด countdown ปีใหม่ได้ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม โดยให้บริโภคสุราได้ไม่เกิน 01:00 น. เฉพาะร้านที่เปิดโล่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น รวมถึงมีมาตรการความปลอดภัยตามที่กำหนด

อย่างไรก็ตามตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มมีการจัดงานเลี้ยง งานสังสรรค์หรืองานเฉลิมฉลองในครอบครัว แม้มีการจัดกิจกรรมคนจำนวนน้อย แต่ถ้ามีการกินเลี้ยง ดื่มสังสรรค์ ต้องระมัดระวัง เพราะการแพร่ระบาดส่วนใหญ่ เป็นการติดเชื้อในกลุ่มก้อนเล็กๆ โดยเฉพาะคนในครอบครัวคนรู้จักกันเพื่อนร่วมงาน ถ้าผู้ร่วมกิจกรรมได้รับวัคซีนครบและก่อนทำกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ได้มีการสุ่มตรวจ ATK เป็นลบ สามารถให้เราจัดงานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

“ดังนั้นในปีใหม่ที่จะถึงนี้ ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน สื่อมวลชน ร่วมด้วยช่วยกัน เป็นหูเป็นตา ถ้ามีการจัดงานหรือมีกิจกรรมใด ที่มีการดำเนินการแล้วเกิดความเสี่ยง เช่น แออัด มีผู้ร่วมงานไม่สวมหน้ากากอนามัย ขอให้รายงานที่ศูนย์รับเรื่องสายด่วนเบอร์ 1111 โดยทางศบค. อยากให้งานเทศกาล หรืองานปีใหม่ เป็นกิจกรรมที่ทำให้ประชาชนคนไทยมีความสุข ที่ต้องมาพร้อมกับความปลอดภัย ไม่อยากให้เกิดการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ปีใหม่ขึ้นมา ซึ่งที่ผ่านมาเราผ่านเทศกาลลอยกระทงมาได้โดยไม่มีคลัสเตอร์ ซึ่งต้องใช้ชีวิตเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลตลอดเวลา” แพทย์หญิงสุมนี กล่าว