svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สธ.ห่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นช่วงปลายปี

15 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ห่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นช่วงปลายปี กระทรวงสาธารณสุข ออก 9 ข้อสั่งการ รองรับและ เฝ้าระวังสถานการณ์ ห่วงสุขภาพ 4 กลุ่ม

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แนวโน้มค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าช่วงปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อาจจะมีความรุนแรงมากกว่าปีที่แล้ว

 

เนื่องจากความกดอากาศสูง ทำให้สภาพอากาศนิ่งจนเกิดการสะสมของฝุ่นได้ง่าย ร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดฝุ่น ทั้งการเดินทางและขนส่ง โรงงานอุตสาหกรรม การจัดการทางการเกษตร รวมถึงไฟป่า 

 

สธ.ห่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นช่วงปลายปี

สำหรับพื้นที่ กทม.คาดว่าค่าฝุ่น PM 2.5 จะเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม เป็นต้นไป โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงเทพตะวันออก และกรุงธนเหนือ ซึ่งมีการจราจรหนาแน่น

 

สธ. มีข้อสั่งการถึงผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เตรียมการเฝ้าระวังดูแลและป้องกันผลกระทบสุขภาพประชาชนจากฝุ่น PM2.5 ดังนี้

 

สธ.ห่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นช่วงปลายปี

 

1.เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์ ผลกระทบ การปฏิบัติตน การดูแลสุขภาพในรูปแบบต่าง ๆ

2.เตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพ ให้ทีม 3 หมอติดตามดูแลกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ คือ ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก ให้โรงพยาบาลเปิดคลินิกมลพิษ เตรียมห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการสาธารณสุข

3.เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุกระดับ ระดับจังหวัด ระดับเขตสุขภาพ  ระดับจังหวัด  ระดับกรม  ระดับกระทรวง ให้มีการรายงานสถานการณ์ทุกวัน

4.เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบผิวหนัง และระบบตา

5.รายงานสถานการณ์ทุกสัปดาห์ ตลอดช่วงเวลาการเฝ้าระวัง ในกรณีสถานการณ์วิกฤต (สีแดง) ให้รายงานไปยังเขตสุขภาพและกองสาธารณสุขฉุกเฉิน

 

สธ.ห่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นช่วงปลายปี

 

6.จัดทำหน่วยงานสาธารณสุขให้เป็นต้นแบบองค์กรลดฝุ่น จัดกิจกรรมองค์กรปลอดฝุ่นในสำนักงานและสถานบริการสาธารณสุขในจังหวัด

7.สร้างความรู้ ความเข้าใจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

8.ให้บูรณาการการดำเนินงานกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อดูแสสุขภาพประชาชน อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อสารความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน

9.ให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียเรื่องการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝุ่นที่คาดว่าจะรุนแรงมากขึ้นโดยขอให้ทุกจังหวัดดำเนินการทันที

logoline