ศรีสุวรรณ จี้ ก.ล.ต. เชือดจริยธรรม เปรมชัย-อิตาเลียนไทย

9 ธันวาคม 2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ รวมถึง นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ นางนที เรียมแสน แม่ครัว นายธานี ทุมมาศ พรานป่า ในฐานความผิด ร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต

ศาลฎีกาได้พิพากษาจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 13 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นที่สุดแห่งคดี ที่ยืนยันการกระทำความผิดของนายเปรมชัย กรรณสูต ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กรมราชทัณฑ์ ที่จะต้องบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาของจำเลยทั้ง 4 คนต่อไป และหวังว่าคงไม่ปล่อยให้มีการใช้แท็กติกอ้างป่วยไปนอนรักษานอกคุกได้

แต่สิ่งที่สังคมไทยจะต้องติดตามกันต่อไป คือ กรณีที่นายเปรมชัย ในขณะที่กระทำความผิดมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อันมีประมวลจริยธรรมหรือจรรยาบรรณของกลุ่มตลาดทรัพย์ทรัพย์แห่งประเทศไทยกำกับดูแลอยู่ โดยกำหนดไว้ว่าจะต้องปฏิบัติ ให้ความร่วมมือ และควบคุมให้มีการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย การมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

นอกจากนั้น บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ยังได้มีการจัดทำบรรษัทภิบาลอิตาเลียนไทย 2561 โดยในข้อ 1.6 ระบุว่า จะต้องปฏิบัติเกี่ยวกับจริยธรรมธุรกิจและจรรยาบรรณของผู้บริหาร ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม อาทิ ไม่กระทำการใด ๆ ที่จะมีผลเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งคำพิพากษาศาลฎีกา ได้ยืนยันชัดเจนถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายที่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมของนายเปรมชัยแล้ว

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ทำหนังสือเป็นคำร้อง ส่งไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อดำเนินการพิจารณากำหนดบทลงโทษทางด้านจริยธรรม จรรยาบรรณต่อ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ด้วย และต้องกำหนดบทลงโทษต่อนายเปรมชัย หลังจากที่พ้นโทษทางอาญาออกมาแล้วด้วย

เพื่อให้กรณีดังกล่าวเป็นกรณีตัวอย่างของผู้บริหาร บมจ.ต่างๆ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พึงสังวรไว้ว่า หากมีการกระทำหรือฝ่าฝืนกฎหมายในลักษณะดังกล่าว หรือกฎหมายอื่นๆ แม้จะมีบทลงโทษทางอาญาหรือแพ่ง ของกฎหมายบ้านเมืองแล้ว จะหลีกนี้ไม่พ้นที่จะต้องกลับมารับผิด รับโทษทางด้านจริยธรรมด้วย