ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคดี “ฆ่าเสือดำ” ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ที่มีนายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก ตกเป็นผู้ต้องหา
ล่าสุดสำนักงานอัยการสูงสุด เผยแพร่ข่าวคำตัดสินศาลฎีกา โดยระบุว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2561 อัยการจังหวัดทองผาภูมิ ได้ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 , นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ จำเลยที่ 2 , นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 , และนายธานี ทุมมาศ พรานป่า จำเลยที่ 4 ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) โดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆ อีกหลายข้อหา
ซึ่งต่อมา วันที่ 19 มี.ค.2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาจำคุกนายเปรมชัย 16 เดือน , นายยงค์ จำคุก 13 เดือน , นางนที จำคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท รอการลงโทษ 2 ปี , และนายธานี จำคุก 2 ปี 17 เดือน โดยยกฟ้องจำเลยบางข้อหา โดยเฉพาะนายเปรมชัย ศาลยกฟ้องในข้อหาร่วมกันเก็บของป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) แต่ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) แทน
ต่อมาวันที่ 24 พ.ค.2562 อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามฟ้องของพนักงานอัยการโจทก์ทุกข้อหา และต่อมาวันที่ 12 ธ.ค.2562 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคน ตามที่พนักงานอัยการศาลสูงภาค 7 ยื่นอุทธรณ์ โดยจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน , จำคุกนายยงค์ 2 ปี 17 เดือน , จำคุกนางนที 1 ปี 8 เดือน รอการลงโทษให้ตามศาลชั้นต้น , และจำคุกนายธานี 2 ปี 21 เดือน
หลังจากศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคน ตามที่พนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว อธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 จึงมีคำสั่งไม่ฎีกา ครั้งต่อมาวันที่ 31 มี.ค.2563 จำเลย 3 ราย ได้แก่ นายเปรมชัย , นายยงค์ , และนายธานี ได้ยื่นฎีกาต่อศาลฎีกา และอธิบดีอัยการศาลสูงภาค 7 ได้แก้ฎีกาเรียบร้อยแล้ว
คดีนี้ศาลฎีกาได้พิจารณาแล้ว ได้มีคำพิพากษาวันนี้ (8 ธ.ค.) ดังนี้ ฎีกาของจำเลยทั้ง 3 ฟังไม่ขึ้น และไม่มีเหตุรอการลงโทษ แต่ต่อมาได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า แก้ไขเพิ่มเติม ปี พ.ศ. 2562 ให้ยกเลิกมาตรา 55 การกระทำของจำเลยทั้ง 3 จึงไม่มีความผิดในส่วนนี้ ตาม ป.อาญา มาตรา 2 คงจำคุกจำเลยที่ 1 จำคุก 2 ปี 6 เดือน , จำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 ปี 9 เดือน , จำเลยที่ 4 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน
ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่