ผู้เสียหายแชร์ "บ้านแชร์ศิรินยา" ร้องนครบาลช่วยเหลือคดี

3 ธ.ค. 64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้เสียหาย จำนวน 15 คนเดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เพื่อขอความช่วยเหลือด้านคดี หลังถูกชักชวนให้เล่นแชร์และร่วมลงทุนบ้านแชร์ศิรินยา ซึ่งอ้างจะได้รับผลตอบแทนสูง แต่กลับถูกหลอกสูญเงินไปรวมกว่า 7.4 ล้านบาท โดยมีพล.ต.ต.ไตรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เป็นผู้รับเรื่อง

น.ส.เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กรณีของตนเริ่มเล่นเมื่อปีที่แล้ว โดยมีเพื่อนมาชักชวนแล้วมีการดึงเข้ากลุ่มไลน์ จากนั้น ท้าวแชร์ได้แนะนำวงแชร์ เช่น วง ก , ข , ค ประมาณ 3-4 วง พร้อมบอกเรทเท่าไหร่ ส่งรายวันหรือรายเดือน จำนวนเงินเท่าไหร่ กติกาอะไร จะมีรายละเอียดเนื้อหาอยู่ วงเงินแล้วแต่เขา ตั้งแต่ 5,000 บาท 10,000-50,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนบาท เราก็จะดูว่าแต่ละคนจะส่งไหวเท่าไหร่ กำลังส่งแค่ไหน จะมีวงบิทที่บิทกันหน้าบ้าน วงเปีย จะมีการส่งตัวเลขให้ทางท้าว 

ในส่วนของตนเล่นครั้งแรกวงเงินหลัก 50,000 บาท พอครบกำหนดก็ได้ดอกเบี้ย พอได้เงิน เท้าก็เปิดวงใหม่เราก็เอาเงินนั้นไปลงต่อ เพราะมั่นใจว่าจะได้ดอกเบี้ย ซึ่งแรกๆก็ได้ดอกเบี้ยจริง จนกระทั่ง ช่วงประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา พวกลูกบ้านเริ่มแปลกใจว่าการเปีย หรือบิท ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ คนสนิทของเท้าแชร์

เช่น กำหนดวงหนึ่งมี 20 มือ มีเพื่อนๆเท้า ลง 2 มือบ้าง 4 มือบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ในวงจะมีกติกาว่าคนที่เล่นหลายมือห้ามบิทหรือเปียติดกัน ต้องเว้นระยะ แต่ช่วงหลังกลับไม่มีกติกานั้น ท้าวอยากจะให้ก็ให้เลย ทำให้ช่วงหลังคนรู้จัก และพรรคพวกของเท้าที่เป็นมือแรกๆ ได้เงินไป เหมือนมีการกำหนดตัวไว้แล้ว ส่วนพวกตนที่ส่งเงินเหมือนกันแต่อยู่มือหลังๆกลับไม่ได้เงิน โดยท้าวอ้างเหตุผลว่าส่งเงินไม่ไหวทำให้บ้านแชร์ล้ม ของตนความเสียหายรวมประมาณ 1.75 ล้านบาท

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า หลังจากบ้านแชร์มีปัญหา เท้าแชร์ได้พิมพ์ไลน์แจ้งสรุปยอดเงินแล้วบอกว่าจะทยอยคืนเดือนละ 3,000 บาท และยังบอกว่าหากใครมาลงทุนต่อ จะมีเงินบางส่วนมาคืนให้ เพื่อโน้มน้าวให้คนเล่นต่อ ซึ่งเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะเครดิตไม่มี จากนั้น ทางท้าวแชร์ก็ยังเปิดวงชักชวนคนใหม่ๆและคนเก่าที่อยากได้เงินคืนไปลงเงินเพิ่มอีก อีกทั้ง ยังส่งข้อความไปหาลูกบ้านที่ยังไม่ได้เงินคืนบางรายโดยบอกว่า ถ้าไปแจ้งตำรวจ จะทำให้ท้าวไม่มีทางทำมาหากินและจะไม่มีเงินคืน

มีรายงานว่า ท้าวแชร์รายนี้นอกจากจะเปิดวงแชร์แล้ว ยังมีการชักชวนให้คนมาลงเงินทุน โดยอ้างว่าจะให้ดอกเบี้ยสูง นอกจากนี้ ยังชักชวนให้คนมาลงทุนลักษณะเหมือนแชร์ทองคำ คือ ลงเงินแล้วจ่ายดอกเบี้ยเป็นทองคำ มีผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความอีกหลายร้อยคน มูลค่าความเสียหายทั้งหมดที่ตรวจสอบตอนนี้ ในส่วนของเงินลงทุนประมาณ 40.8 ล้านบาท ส่วนวงแชร์ ประมาณ 50 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 90.8 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ต.ไตรงค์ เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้เสียหายที่มาวันนี้ พบว่า ผู้เสียหายมีทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในจำนวนนี้มีผู้เสียหาย 2 รายในท้องที่ สน.ลุมพินี จึงจะให้สน.ลุมพินีเป็นจุดรับแจ้งกรณีนี้ทั้งหมด แล้วจะนัดผู้เสียหายมาทยอยสอบปากคำภายในสัปดาห์หน้า โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ทินกร สมวันดี รอง ผบก.น.5 มาบริหารจัดการ และดูว่าทางผู้เสียหายต้องเตรียมพยานหลักฐานอะไรบ้าง เช่น เข้าไปมีส่วนกับวงแชร์นี้ได้อย่างไร

“ ส่วนแนวทางการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุก็ว่าไปตามขั้นตอน เบื้องต้น พบว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และจะตรวจสอบว่ามีความผิดอื่นด้วยหรือไม่ หลังรวบรวมหลักฐานแล้วคงจะมีการหมายเรียกให้ผู้ก่อเหตุมาชี้แจงรายละเอียด”

พล.ต.ต.ไตรงค์ เปิดเผยด้วยว่า ส่วนกรณีผู้เสียหายบางรายอยู่ต่างจังหวัดนั้น การสอบสวนสามารถทำที่ใดก็ได้ จะร้องทุกข์ที่โรงพักท้องที่นั้นเลย แล้วส่งเรื่องมาที่บช.น. หรือเราส่งประเด็นให้โรงพักนั้นทำการสอบสวนก็สามารถทำได้ หลังจากนั้น จะประมวลเรื่องทั้งหมดเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป