นับถอยหลัง "สัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน” สู่เป้าหมาย 100 ล้านโดส 27 พ.ย.-5 ธ.ค.

30 พฤศจิกายน 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอเชิญชวนคนไทยรวมทั้งบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในประเทศ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ฟรี โดยได้จัดจุดฉีดวัคซีนทั้ง ณ สถานที่ที่กำหนด (On Site) และหน่วยเคลื่อนที่ (Mobile Unit)

ปีหน้ารัฐบาลได้จัดหาวัคซีน 120 ล้านโดส เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวัคซีนกระตุ้น เป็นเข็ม 3 หรือเข็ม 4 ซึ่ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกพื้นที่ จะได้เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน และเป็นการนับถอยหลัง “สัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน” สู่เป้าหมาย 100 ล้านโดส ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน-5 ธันวาคม 2564

น.ส.รัชดา กล่าวต่อ ขณะนี้หลายจังหวัดได้มีมาตรการจูงใจประชาชนให้มาฉีดวัคซีนมากขึ้น ด้วยการมอบของรางวัล สำหรับผู้ที่มารับการฉีดวัคซีน อาทิ

1) จ.มหาสารคาม จัดกิจกรรม ฉีดวัคซีนโควิด- 19 จะมีสิทธิ์ลุ้นรับสร้อยคอทองคำน้ำหนักครึ่งสลึง

2) จ.ยะลา ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนถึงบ้านพร้อมแจกข้าวสารให้ 1 ถุง

3) จ.สงขลา ลุ้นรับ ทอง 2 สลึง เงินสด 6,000 บาท , ข้าวสาร

4) จ.นราธิวาส ร่วมกับห้างสรรพสินค้า ช็อปแล้วรับของแจก สำหรับผู้ฉีดวัคซีนแล้ว เป็นต้น

สำหรับข้อกังวลของประชาชนต่ออาการไม่พึงประสงค์ รวมถึงอาการผมร่วง ที่เป็นข่าวนั้น น.ส.รัชดา ชี้แจงว่า ต้องขอย้ำว่าอาการไม่พึงประสงค์ในทุกลักษณะ จะได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยประชาชนสามารถเขียนคำร้องไปที่คณะอนุกรรมการในระดับเขต ประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนภาคประชาชนจะเป็นผู้พิจารณาว่า

จะจ่ายเงินเยียวยาตามหลักฐานทางการแพทย์และระดับความหนักเบาของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 1 แสนบาท จึงอยากเชิญชวนประชาชนทั่วไป ตั้งแต่อายุ 12 ปี ขึ้นไปรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง