ศบค. เผย ฉีดวัคซีนเข็ม 2 แล้ว ร้อยละ 56.9 ตะลึง! ภูเก็ต ผู้ติดเชื้อติดท็อป 10
ศบค. เผย ฉีดวัคซีนเข็ม 2 แล้ว ร้อยละ 56.9 ของประชากร ตลึง! ภูเก็ต ติดท็อปเท็นผู้ติดเชื้อสูงสุด อีก 16 จังหวัดได้รับวัคซีน ไม่ถึง ร้อยละ 50 ของประชากร วันนี้พบผู้ติดเชื้อ 5,854 ราย เสียชีวิต 30 ราย เป็นสตรีมีครรภ์ 1 ราย และเด็กอายุ 9 เดือน 1 ราย
28 พฤศจิกายน 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ การแพร่ระบาด โควิด-19 ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 5,854 ราย ติดเชื้อในประเทศ 5,390 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 7 ราย จากเรือนจำที่ต้องขัง 457 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,077,950 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,106,813 ราย หายป่วยแล้ว 6,354 ราย หายป่วยสะสม 1,979,430 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 คน เสียชีวิตสะสม 20,613 คน คิดเป็น 0.99% ผู้ป่วยรักษาอยู่ 79,250 ราย ในโรงพยาบาล 39,911 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 39,339 ราย อาการหนัก 1,395 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 330 ราย
ผู้รับวัคซีนฉีดแล้ว 92,125,296 โดส เข็มที่หนึ่งเพิ่มขึ้น 196,879 ราย สะสม 47,847,646 ราย คิดเป็น 66.4% ของประชากร เข็มที่สองเพิ่มขึ้น 226,412 ราย สะสม 40,963,885 ราย คิดเป็น 56.9% ของประชากร เข็มที่สามเพิ่มขึ้น 43,949 ราย สะสม 3,313,765 ราย คิดเป็น 4.6% ของประชากร
ผู้ป่วยเสียชีวิต จำนวน 30 ราย กรุงเทพมหานคร 1 ราย ปทุมธานี 1 ราย ชัยภูมิ มุกดาหาร ศรีสะเกษ รวม 3 ราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก นครสวรรค์ อุทัยธานี รวม 5 ราย นครศรีธรรมราช ปัตตานี สงขลา ยะลา กระบี่ ตรัง สตูล สุราษฎร์ธานี รวม 15 ราย จันทบุรี ระยอง สระบุรี รวม 5 ราย แยกเป็นชาย 16 ราย หญิง 14 ราย ชาวไทย 29 ราย เมียนมา 1 ราย ค่ากลางของอายุ 71 ปี (9 เดือน -95 ปี) ค่ากลางทราบติดเชื้อถึงเสียชีวิต 9 วัน นานสุด 38 วัน อายุ 60 ปีขึ้นไป 20 รายคิดเป็น 67% อายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 8 รายคิดเป็น 27% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 รายคิดเป็น 6% หญิงตั้งครรภ์ 1 ราย คิดเป็น 3% อายุ 16 ปี จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่มีโรคประจำตัวและวัคซีน เด็กอายุ 9 เดือน 1 ราย คิดเป็น 3% จังหวัด ปัตตานี ไม่มีโรคประจำตัว
ในส่วนผู้เดินทางจากต่างประเทศรวม 7 ราย ได้แก่ คาซัคสถาน รัสเซีย เนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย กัมพูชา ประเทศละ 1 ราย และสหรัฐอเมริกา 2 ราย
ทั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 28 พฤศจิกายน 2565 รวมทั้งประเทศ (ยกเว้นผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร) 2,074,189 ราย โดยแบ่งเป็นในเรือนจำและที่ต้องขัง 84,013 ราย จังหวัดอื่น 54 จังหวัด 955,584 รายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด 64,007 ราย ภาคใต้ 4 จังหวัด 193,885 ราย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 776,700 ราย
ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร 664 ราย รวมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึง 28 พฤศจิกายน 420,729 ราย สงขลา 377 ราย รวม 60,369 ราย นครศรีธรรมราช 355 ราย รวม 39,981 ราย สุราษฎร์ธานี 277 ราย รวม 24,948 ราย เชียงใหม่ 226 ราย รวม 25,846 ราย ชลบุรี 205 ราย รวม 107,320 ราย ปัตตานี 162 ราย รวม 45,564 ราย สมุทรปราการ 156 ราย รวม 128,351 ราย ภูเก็ต 122 ราย รวม 16,803 ราย และระยอง 121 ราย รวม 44,615 ราย
ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่ง จำแนกตามจังหวัดและการได้รับวัคซีนตามเป้าหมายวันที่ 28 พฤศจิกายน จังหวัดพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัดครอบคลุมร้อยละ 50-59 ได้แก่ เลย หนองคาย อุดรธานี บุรีรัมย์ ร้อยละ 60- 69 ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ตรัง กระบี่และตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี จังหวัดอื่นๆ 16 จังหวัด พบว่ายังได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่งร้อยละ 40-49 ได้แก่ แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก ลพบุรี สมุทรสงคราม สระแก้ว กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครพนม บึงกาฬ สกลนคร หนองบัวลำภู ชัยภูมิ สุรินทร์ ยโสธร และศรีสะเกษ
สำหรับผลการดำเนินการรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานตั้งแต่วันที่ 1-27 พฤศจิกายน สะสม 116,323 ราย เป็นกลุ่ม Test&Go รวม 91,673 ราย ผู้ติดเชื้อ 69 (+2) อัตราการติดเชื้อคิดเป็น 0.08% ราย Sandbox รวม 19,736 รายผู้ติดเชื้อ 38 (+2) อัตราการติดเชื้อ 0.19% Quarantine นวม 4,914 ราย ติดเชื้อ 41(+1) รวมยอดผู้เดินทางเข้าประเทศ 116,323 ราย ติดเชื้อรวม 149 คิดเป็น 0.13%
