svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กรมควบคุมโรคเตือน หนาวนี้ระวัง "โรคสครับไทฟัส"

23 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมควบคุมโรค แนะนักท่องเที่ยวที่ไปกางเต้นท์สัมผัสอากาศหนาวในป่าเขา ให้ระมัดระวังตัวไรอ่อนกัด เสี่ยงป่วยโรคไข้รากสาดใหญ่

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เริ่มเปิดบริการให้ประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามภูเขายอดดอยอากาศเริ่มเย็นลง

 

ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ประชาชนมักจะเดินทางไปท่องเที่ยวตามป่าเขาและกางเต็นท์นอนเพื่อชมหมอกหรือสัมผัสอากาศหนาว ทำให้มีความเสี่ยงที่จะถูกตัวไรอ่อนที่อาศัยอยู่ในป่ากัด ซึ่งอาจติดเชื้อและป่วยเป็นโรคสครับไทฟัส (Scrub typhus) หรือโรคไข้รากสาดใหญ่ได้     

 

กรมควบคุมโรคเตือน หนาวนี้ระวัง "โรคสครับไทฟัส"

โรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับไทฟัส (Scrub typhus) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มริกเก็ตเซีย (Rickettsia) ซึ่งมีตัวไรอ่อนเป็นพาหะ อาศัยอยู่ตามกอไม้กอหญ้าใกล้กับพื้นดิน จะกัดคนหรือสัตว์เพื่อกินน้ำเหลืองเป็นอาหาร

 

โดยไรอ่อนจะไต่ไปตามยอดหญ้าแล้วกระโดดเกาะตามเสื้อผ้าของคนและกัดผิวหนังที่สัมผัสกับเสื้อผ้า  ปกติเราจะมองไม่เห็นตัวไรอ่อนเพราะมีขนาดเล็กมากราว 1 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนใหญ่บริเวณที่ถูกกัด คือ รักแร้  ขาหนีบ รอบเอว หากถูกตัวไรอ่อนที่มีเชื้อกัดประมาณ 10-12 วัน จะมีอาการ ปวดศีรษะ มีไข้ หนาวสั่น ไอ ตาแดง คลื่นไส้อาเจียน ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย

 

กรมควบคุมโรคเตือน หนาวนี้ระวัง "โรคสครับไทฟัส"

 

บริเวณที่ถูกกัดอาจจะมีผื่นแดงขนาดเล็กค่อยๆ นูนหรือใหญ่ขึ้น และอาจจะพบแผลคล้ายบุหรี่จี้ (Eschar) แต่จะไม่ปวดและไม่คัน ผู้ป่วยบางรายอาจหายได้เอง แต่บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เช่น ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ และอาจทำให้เสียชีวิตได้

 

 

สำหรับสถานการณ์ “โรคไข้รากสาดใหญ่” หรือ “โรคสครับไทฟัส” (Scrub typhus) ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 27 ตุลาคม 2564 มีรายงานพบผู้ป่วยโรคไข้รากสาดใหญ่ 2,506 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ภาคที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุด คือ ภาคเหนือ พบผู้ป่วยสูงสุด จำนวน 1,246 ราย และผู้ที่เสียชีวิตก็อยู่ในภาคเหนือ

 

กรมควบคุมโรคเตือน หนาวนี้ระวัง "โรคสครับไทฟัส"

 

ประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวตั้งแคมป์กางเต็นท์นอนในป่า หรือไปทำมาหากินในพื้นที่เกษตรกรรม ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด เช่น เสื้อที่ปิดคอ เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว และทายากันยุง ส่วนที่อยู่นอกร่มผ้าให้ทาโลชั่นกันยุงที่มีส่วนผสมของสาร DEET หรือใช้สมุนไพรทากันยุง

 

ซึ่งจะสามารถป้องกันตัวไรอ่อนกัดได้เช่นกัน  นอกจากนี้ ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีตัวไรอ่อนชุกชุม  ไม่ว่าจะเป็นป่าโปร่ง ป่าละเมาะ บริเวณที่มีการปลูกป่าใหม่หรือตั้งรกรากใหม่ ทุ่งหญ้า ชายป่า หรือบริเวณต้นไม้ใหญ่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง หลังออกจากป่าให้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย สระผม

 

กรมควบคุมโรคเตือน หนาวนี้ระวัง "โรคสครับไทฟัส"

 

และนำเสื้อผ้าที่สวมใส่มาซักให้สะอาดด้วยผงซักฟอกเข้มข้น เพราะอาจมีตัวไรอ่อนติดมากับร่างกายหรือเสื้อผ้าได้ หากมีอาการไข้และอาการข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเข้าป่าให้แพทย์ทราบ  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422

logoline