วันนี้ (23 พ.ย.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังนายกรัฐมนตรี เรียกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหารือถึงสถานการณ์ราคาพลังงาน ว่า ขณะนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ยังไม่ออกเป็นมาตราการเพิ่มเติม ซึ่งเพดานราคายังคงอยู่ต่ำกว่า 30 บาท และเริ่มอยู่ที่ต่ำว่า 30 บาทแล้ว และเริ่มทรงตัว และอ่อนตัวลง หลังประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน เล่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย นำน้ำมันสำรองของตัวเองออกมา ทำให้ประเทศในกลุ่มโอเปคไม่พอใจที่ราคาไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยโอเปคจะประชุมทบทวนเรื่องกำลังการผลิตอีกครั้งในวันที่ 4 ธ.ค. นี้
สำหรับแนวทางของรัฐบาล ยังคงใช้การชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ อย่างต่อเนื่อง ไปอีกสักระยะ เนื่องจากยังไม่แน่ใจถึงสถานการณ์โลกว่า จะหยุดนิ่งอย่างไร จนกว่าจะกลับเข้าสู่ระดับราคาเท่าช่วงปลายเดือน ก.ย.
ส่วนข้อเสนอของผู้ประกอบการ รัฐบาลจะพิจารณาไปเป็นข้อๆ หวังว่า เรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือดูแลค่าใช้จ่ายประชาชน ผ่านโครงการต่างๆ ทั้งคนละครึ่ง การคงสภาพการจ้างงาน แต่แนวทางที่คิดว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือการพยายามเปิดประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ให้มีสหการโควิดมาซ้ำเติมละลอกใหม่
สำหรับเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาท ที่เตรียมไว้ คาดว่าจะใช้แก้ปัญหาได้ 4-5 เดือน ส่วนข้อเรียกร้องราคาน้ำมันดีเซลให้ตรึงเหลือ 25 บาทต่อลิตร นั้นมองว่าทำไม่ได้ เพราะจะต้องใช้งบตกวันละ 500 ล้านบาท หรือเดือนละ 1,5000 ล้านบาท ตกปีละ 180,000 ล้านบาท