กรณีศาลจังหวัดปัตตานี ออกหมายจับ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ “เสี่ยโจ้ ปัตตา” มีประเด็นสังคมตั้งคำถามว่าเหตุใดข้อมูลหมายจับจึงไม่ถูกนำเข้าสู่สารบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนเป็นเหตุให้เสี่ยโจ้ ถูกปล่อยตัว ภายหลังถูกตำรวจสอบสวนกลางจับกุมในข้อหาฟอกเงินและนำตัวส่งพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.64
ล่าสุดทางด้าน พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้รายงานผลเบื้องต้นให้ทราบเป็นการเร่งด่วนแล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้มอบหมายให้ตนพิจารณารายงานดังกล่าว
พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยอีกว่า พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบขยายรายละเอียดเพิ่มเติม ประกอบกับเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบสร้างความเสียหายต่อขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องพิจารณาความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะข้อสงสัยประเด็นที่ว่ามีการทำกันเชื่อมโยงเป็นขบวนการหรือเป็นแค่ความประมาทเลินเล่อ จึงต้องอาศัยการตรวจสอบทุกลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียดโดยเร็ว
“ ได้ทำการหารือกับทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์แล้ว และมีความเห็นตรงกัน ให้มีการสืบสวนวินัยข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนจากจเรตำรวจร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 แทนการให้ต้นสังกัดดำเนินการสืบสวนเพียงหน่วยเดียว โดยให้ จเรตำรวจ ( สบ 8 ) ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่าระดับผู้บัญชาการเป็นประธาน เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง และสร้างความเชื่อมั่นในการตอบคำถามสังคม ขณะนี้ กองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างยกร่างเสนอคำสั่งให้ ผบ.ตร.ลงนามตั้งกรรมการฯ ต่อไป”
พล.ต.อ.วิสนุ ยืนยันอีกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ให้ความสำคัญ และกำชับให้ตนกำกับการดำเนินการดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าข้อบกพร่องดังกล่าวเป็นการกระทำโดยเจตนา และเข้าข่ายกระทำผิดอาญา ก็ต้องมีการดำเนินคดีอาญา และ วินัยแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนด้วยความเด็ดขาด ต่อไป