ป.ป.ท. ตามรวบพนง.แบงค์ยักยอก 7 ล้าน หลบหนีกว่า 10 ปี
ป.ป.ท. ประสานกองปราบปราม “จับกุมอดีตพนักงานธนาคาร ยักยอกเงินกว่า 7 ล้านบาท” หลบหนีคดีจาก จ.ชัยนาท กว่าสิบปี ไปบวชเป็นพระในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา
18 พฤศจิกายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายพุฒิพงษ์ เลิศสถิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก , พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป , นางสาวอนงนาต ชีวานันทกุล ผอ.กปท. 3 , พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป , นายรักษ์กล้า สถานสุข รองหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต นายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการกลุ่มงานปราบปรามคดีพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ท. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองอำนวยการต่อต้านการทุจริต
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 353 และ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า สังกัดบริษัท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสรรคบุรี จ.ชัยนาท อาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบ ยักยอกเงินจากกล่องเงินสดเครื่องฝากอัตโนมัติ (ADM) และกล่องเงินสดสำรองของเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) จากห้องมั่นคง เป็นเหตุให้ธนาคาร ได้รับความเสียหาย เป็นเงินจำนวน 7,097,000 บาท เหตุเกิดเมื่อเดือนมกราคม 2554
ทั้งนี้จากการสืบสวน พบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปบวชเป็นพระ ที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. 5 บก.ป จึงได้วางแผนทำการจับกุม จากการตรวจสอบผู้ถูกกล่าวหารับว่าเป็นนายกฤตธนาฯ จริง และได้ขอลาสิกขา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จึงได้เข้าทำการจับกุม เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 10.00 น. ณ วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จังหวัดสระบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป