18 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีรถตู้รับส่งนักเรียนจังหวัดอุบลราชธานี กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ กลายเป็นคลัสเตอร์รถรับส่งนักเรียนหรือคลัสเตอร์โรงเรียน เพราะมีนักเรียนมาจากแหล่งระบาด นำเชื้อโควิด-19 มาแพร่ต่อให้เพื่อนๆ ที่นั่งมาในรถ ก่อนไปติดเชื้อ ทำป่วยข้ามโรงเรียนแล้ว 2 โรง อีก 3 โรงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องสั่งปิดสกัดกันเชื้อโควิด-19 ลุกลามไปถึงปลายเดือน พ.ย.
สำหรับการแพร่ระบาดในส่วนของโรงเรียนที่มีเด็กนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 มาจากเพื่อนที่นั่งรถตู้รับส่งแล้วนำมาแพร่ติดต่อกันในเขตอำเภอเมือง ปรากฏมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 11 คน โดยเป็นเด็กนักเรียนและครู รวมขณะนี้ มีผู้ป่วยจากคลัสเตอร์รถรับส่งนักเรียนแล้ว 35 คน
ด้านนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สาธารสุขและโรงเรียนเข้าดูแลกวดขันรถรับส่งนักเรียนให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังระหว่างแล่นรถรับส่งเด็กนักเรียนในส่วนของโรงเรียนที่ยังเปิดทำการเรียนการสอนอยู่ขณะนี้
รวมทั้งโรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษาในอำเภอน้ำยืนและน้ำขุ่นที่พบการระบาดใน 3 โรงเรียน เพราะเด็กติดเชื้อจากผู้ปกครองมาแพร่สู่เพื่อนนักเรียนและครู จนมียอดป่วยแล้วกว่า 70 คน โดยให้เข้าไปดูแลครอบครัวผู้ติดเชื้อ เพื่อไม่ให้มาแพร่สู่กันได้อีก
ซึ่งขณะนี้ จากการระบาดของโรงเรียนในเมืองและต่างอำเภอ มีจำนวนนักเรียนและครูที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวรวมกันจำนวนกว่า 1,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คนขับรถตู้รับส่งนักเรียนในอำเภอเมือง ระบุมาตรการระวังการแพร่เชื้อโรค นอกจากมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแจกก่อนขึ้นรถ ยังมีการตรวจวัดอุณหภูมิ และเตรียมหน้ากากสำรองแจกให้กับเด็กที่ไม่ได้เอาหน้ากากมาด้วย
ซึ่งรถตู้ของตน ที่ใช้รับส่งนักเรียนใน 3 โรงเรียน โดยรถที่ใช้งานไม่เกิน 13 ที่นั่ง แต่ปัจจุบันได้มีการสลับวันมาเรียน ทำให้รับนักเรียนไม่เต็มที่นั่ง และเมื่อเกิดการติดเชื้อโคงิด-19 มีการสั่งปิดโรงเรียนหลายแห่ง จึงมีนักเรียนโดยสารมาด้วยเพียงวันละ 1-3 คนเท่านั้น
ขณะที่ทางด้านผู้ประกอบการอีกคน ก็เปิดเผยว่า ตนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโดยในทุกเช้าก่อนนำรถออกมารับส่งนักเรียน มีการทำความสะอาดตัวรถ ก่อนเด็กนักเรียนจะขึ้นรถ ดืทำการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครอง เพราะผู้ปกครองของเด็กที่ใช้บริการก็มักจะสอบถามมาตรการในการดูแลความปลอดภัยมาโดยตลอด