สถานการณ์น้ำท่วม ในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา ได้ได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรในอำเภอพิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากลำเชียงไกร ลำตะคอง และลำน้ำมูล จึงทำให้เกิดน้ำท่วม น้ำไหลหลากประสบความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 12 ตำบล 132 หมู่บ้าน 1,494 หลังคาเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย มากถึง 100,588 ไร่
ในช่วงนี้ เกษตรกรหลายรายเริ่มเข้าสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อเก็บภาพ ทำรายงานประกอบขอรับเงินเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านตลาดประดู่ ตำบลกระชอน อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พบว่า มีกลุ่มเกษตรกรกำลังลุยโคลนลุยน้ำกันอย่างทุลักทุเล เข้าไปยังพื้นที่นาข้าวที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อทำการถ่ายรูปความเสียหายให้ตรงกับพิกัด GPS จะได้ยืนยันข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
นายเขียว โมรานอก เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้ เปิดเผยว่า นาข้าวกว่า 15 ไร่ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ในวันนี้น้ำที่ท่วมขังเริ่มลดระดับลงจนสามารถเดินเข้ามาถ่ายรูปได้แล้ว แต่ก็เป็นอีกความเดือดร้อนหนึ่งของชาวนา ที่ต้องมาเก็บภาพร่องรอยความเสียหายประกอบการขอรับเงินเยียวยา ซึ่งทำได้ค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากต้องใช้พิกัด GPS ถ่ายรูปความเสียหายที่เกิดขึ้น
“ต้องรอให้น้ำลดลงก่อน จึงจะสามารถเข้าถึงแปลงนาเพื่อไปถ่ายรูปได้ เทคโนโลยีปัจจุบันใช้ภาพถ่ายดาวเทียม ก็น่าที่จะรู้พิกัดได้ว่า ตรงไหนน้ำท่วม ไม่น่าจะต้องให้ชาวนาเดือดร้อน เดินลุยน้ำลุยโคลนเข้าไปถ่ายรูปน้ำท่วมถึงแปลงนาที่เสียหาย ควรจะลดขั้นตอนลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวนาบ้าง เพื่อให้ชาวนาได้รับเงินเยียวยาความเดือดร้อนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ”
ข่าวและภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ