svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ธนารักษ์รอคำสั่งศาลชี้ขาดประมูลท่อส่งน้ำ

15 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมธนารักษ์ ยันยังไม่เซ็นสัญญาเอกชนรายใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกโครงการบริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักตะวันออก เหตุรอคำสั่งศาลปกครองหลัง EASTWATER ยื่นคุ้มครองชั่วคราวแล้ว

อธิบดีกรมธนารักษ์ ประภาศ คงเอียด ระบุ โครงการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกของกรมธนารักษ์ ขณะนี้ยังไม่มีการลงนามสัญญากับบริษัทเอกชนรายใหม่ ที่ได้รับการคัดเลือกแทนบริษัทรายเดิม คือ บมจ. จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTWATER) ที่สัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 เพราะต้องรอคำสั่งจากศาลปกครองว่าให้ดำเนินการอย่างไร หลังจากที่บริษัทรายเดิมได้ไปยื่นศาลปกครองของคุ้มครองชั่วคราวกรณีการคัดเลือกเอกชนในโครงการดังกล่าว

 

ทั้งนี้ หากศาลปกครองมีคำสั่งออกมาอย่างไร ทางกรมธนารักษ์ก็พร้อมปฏิบัติตาม จึงยังไม่มีการลงนามสัญญากับเอกชนรายใหม่ ซึ่งยอมรับว่าตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวมีการคัดเลือกตามกระบวนการไปแล้ว ส่วนที่ว่าเอกชนรายเดิมมองว่าควรจะต้องเจรจากับเอกชนรายเดิมเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการบริหารจัดการโครงการท่อส่งน้ำตะวันออกอย่างต่อเนื่อง ประเด็นดังกล่าวก็ต้องรอศาลปกครองมีคำสั่งออกมาเช่นกัน

“เรื่องโครงการประมูลท่อส่งน้ำภาคตะวันออก ซึ่งบริษัทรายเดิมได้ยื่นฟ้อง 2 ส่วน คือขอคุ้มครองชั่วคราว และคดีหลักที่ยื่นฟ้อง ก็ต้องรอคำสั่งของศาลออกมา กรมจึงยังทำอะไรมากไม่ได้ ซึ่งพร้อมน้อมรับคำสั่งของศาลที่ออกมา”

 

รายงานข่าวแจ้งว่า การคัดเลือกเอกชนโครงการดังกล่าว โดยกรมธนารักษ์มีหนังสือเชิญบริษัทที่มีคุณสมบัติเพียง 3 ราย ให้มายื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกครั้งนี้ จากนั้นในวันที่ 30 ก.ย. 2564 คณะกรรมการคัดเลือกมีมติให้บริษัทเอกชนรายใหม่ เป็นผู้ได้รับคัดเลือกในการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกแทนบริษัทรายเดิม มีอายุสัญญา 30 ปี โดยกรมธนารักษ์จะได้รับผลตอบแทนตลอดระยะเวลา 30 ปีเป็นจำนวนเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท

 

กรณีดังกล่าว ทำให้บริษัทรายเดิมที่กำลังจะสิ้นสุดสัญญานั้น ได้ยื่นศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวแล้ว เนื่องจากมองว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กรมธนารักษ์ต้องเจรจากับบริษัทรายเดิมก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดไม่น้อยกว่า 3 ปี นอกจากนี้ การดำเนินการคัดเลือกครั้งนี้อาจจะไม่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้การดำเนินการมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและให้บริการน้ำในภูมิภาค ซึ่งถือเป็นหลักการที่เป็นสาระสำคัญ ดังนั้น แม้ว่าจะใกล้สิ้นสุดอายุของสัญญาในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ก็ตาม แต่เป็นพันธะของกรมธนารักษ์ที่จะต้องพิจารณาจัดทำสัญญาฉบับใหม่เพื่อให้บริษัทรายเดิมเป็นผู้ใช้และบริหารโครงการท่อส่งน้ำต่อไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ทเพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำในภาคตะวันออก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศได้

logoline