จากการที่ รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว หรือ ข้อกำหนดในการห้ามออกนอกเคหสถาน ใน เขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อลดการเดินทางและเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกนี้ อัปเดตให้อีกครั้ง
ซึ่ง มติศบค.ล่าสุด วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ลดพื้นที่สีแดงเข้ม จาก 7 จังหวัด เหลือ 6 จังหวัด ที่ยังอยู่มีประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 23.00-03.00 น. โดยรายละเอียดมีดังนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ 1 จังหวัดที่หายไปในรอบนี้ คือ จังหวัดจันทบุรี ที่ถูกปรับไปอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ พื้นที่สีแดง
ทั้งนี้ มติศบค.วันที่ 12 พ.ย. 64 จะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไปเพื่อให้มีผลบังคับใช้วันที่ 16 พ.ย. 64 เป็นต้นไป
แต่ระหว่างที่ยังไม่มีการประกาศลงในกิจจานุเบกษา ยังคงใช้มาตรการตามที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 64 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๗) ซึ่งระบุมติศบค. อย่างเป็นทางการเพื่อมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพื้นที่สีแดงเข้มและประกาศเคอร์ฟิวดังนี้
ในวันนี้ ทางด้าน นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ส่วนใหญ่คงเดิม มีเพียง จ.จันทบุรี ที่ปรับจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)
"ทำให้ขณะนี้ ประเทศไทยมี พื้นที่สีแดงเข้มเหลือเพียงจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา พื้นที่สีแดง 39 จังหวัด พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 5 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 4 จังหวัด สำหรับมาตรการควบคุมโรคในทุกระดับพื้นที่สถานการณ์ยังคงเดิม โดยในพื้นที่สีแดงเข้มยังคงมาตรการตามข้อกำหนดฉบับที่ 37 ที่ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00 – 03.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ออกไปอีก 15 วัน ถึงวันที่ 30 พ.ย."