วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ร่วมกับ ป.ป.ส. แถลงผลการปฏิบัติที่สำคัญ การเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติด ห้วงวันที่ 8 – 12 พ.ย. 64 ในพื้นที่จังหวัดน่าน จำนวน 80 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหารวม 70 ราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนหนึ่ง , อาวุธปืน 14 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 77 นัด
โดยในวันที่ 8 พ.ย. 64 ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา พร้อมยาบ้า 712,020 เม็ด เป็นการทำลายเครือข่ายสำคัญ ก่อนที่จะมีการกระจายยาเสพติดไปสู่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 2 คน คือ 1.น.ส.ไหม แซ่จ๊ะ 2.นายจายมู (ไม่มีนามสกุล) ที่บริเวณริมถนนเข้าหมู่บ้าน บ้านสันกับตองเหนือ หมู่ 8 ซอย1 ต.สารภี อ.สารภี จว.เชียงใหม่ ต่อเนื่อง บ้านเลขที่ 99 หมู่ 2 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และหอพักอาจารี หมู่ 3 ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่
การจับกุมมีขึ้นหลังสายลับ ได้ติดต่อขอซื้อยาเสพติดจาก นายสมชาย ศรีเมือง (หลบหนีอยู่ประเทศเมียนมาร์) ในราคามัดละ 25,000 บาท ซึ่งกลุ่มนี้มักจะใช้เส้นทางบริเวณริมถนนเส้นซุปเปอร์เชียงใหม่-ลำปาง และ ถนนภายในหมู่บ้าน ต.ชมภู และ ต.สารภี อ.สารภี จว.เชียงใหม่ เป็นที่ซุกซ่อนยาบ้า ตำรวจจึงได้วางกำลังไว้ตลอดเส้นทาง
เมื่อพบเห็นผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ 1 ตามที่สายลับแจ้งไว้ จึงเข้าทำการตรวจค้น พบของกลางจำนวน 4,000 เม็ด ก่อนที่จะขยายผลไปค้นต่อที่บ้านพักใน ต.สันพระเนตร อ.สันทราย พบผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งเป็นสามีของผู้ต้องหาที่ 1 ตรวจพบยาบ้าอีก 20 เม็ด และขยายผลไปค้นต่อที่หอพักใน ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ ตรวจพบยาบ้าอีก 708,000 เม็ด รวมกลางยาบ้าทั้งหมด 712,020 เม็ด
โดยผู้ต้องหาที่ 1 รับว่า ได้ค่าจ้าง จากนางดาฯ ไม่ทราบชื่อนางสกุล เม็ดละ 50 สตางค์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย”
นอกจากนี้ยังมีการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดรายสำคัญรวมมูลค่า 60 กว่าล้านบาท หลังจากเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 63 ตำรวจ สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้มีการจับกุม ยาบ้าประมาณ 6,000,000 เม็ด รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ 1 คัน และวันที่ 21 กันยายน 2563 บก.สส.ภ.5 ขยายผลจากคดีแรก ตรวจยึดยาบ้า 6,700,000 เม็ด, เคตามีน ประมาณ 100 กก.พื้นที่ สภ.เชียงของ จ.เชียงราย
ซึ่งทั้งสองคดีเป็นคดีเกี่ยวเนื่องและเชื่อมโยงกัน จึงได้ขยายผลออกหมายจับรวม 11 หมาย จับกุมตัวได้ 3 หมาย หลบหนีหมายจับ 8 หมาย ตำรวจภูธรภาค 5 จึงร่วมกับ ป.ป.ส. ติดตามจับกุม โดยวันที่ 11 ก.พ. 64 ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายของผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพะเยา รวมทรัพย์สิน มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท และวันที่ 12 พ.ย. 64 ทำการขยายผลตรวจยึดอายัดทรัพย์สินของนายไพบูลย์ แซ่ว่าง ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในพื้นที่ จ.น่าน เป็น ที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่าประมาณ 10 กว่าล้านบาท ไว้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป