นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ เสี่ยโจ้ ไปส่งอัยการสงขลาตามหมายจับใน คดีฟอกเงิน และ ค้าน้ำมันเถื่อน โดยอัยการจังหวัดสงขลา มีคำสั่งไม่ฟ้องคดี เสนอไปยังอธิบดีอัยการภาค 9 พิจารณาแล้วเห็นด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา
“ เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องคดี จึงไม่มีอำนาจควบคุมตัว ดังนั้นจึงต้องปล่อยตัวเสี่ยโจ้ไป ”
นายประยุทธ กล่าวว่า ก่อนปล่อยตัวเสี่ยโจ้ อัยการจังหวัดสงขลา ได้สอบถามตำรวจที่คุมตัวเสี่ยโจ้ มาส่งหลายครั้งแล้วว่า ผู้ต้องหามีคดีอื่นๆอีกหรือไม่ เพื่อจะได้ให้ส่งตัวไปดำเนินการ ถามย้ำ 4-5 ครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันกับอัยการจังหวัดสงขลาว่า ผู้ต้องหาไม่มีคดีอื่นๆอีก ไม่มีการแจ้งอายัดตัว จึงต้องปล่อยตัวเสี่ยโจ้ไป
นายประยุทธ กล่าวว่า แต่คดีนี้ยังไม่สิ้นสุดอัยการจะส่งความเห็นไปยังกองบัญชาการสอบสวนกลางเสนอ ผบ.ตร. ถ้าเห็นด้วยคดีเป็นอันยุติ ถ้าไม่เห็นด้วยต้องส่งอัยการสูงสุดชี้ขาด
ส่วนสำนวนคดีค้าน้ำมันเถื่อนที่อยู่ในอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร คดีนี้เป็นคดีเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร เป็นอำนาจการสั่งคดีของ อสส. โดย อสส. สมัยนั้นคือนายเข็มชัย ชุติวงศ์ ได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน ปอศ. สอบสวนเพิ่มเติมตั้งแต่ปี 60-61 ใน 2 ประเด็น
ประเด็นแรก ให้คำนวนภาษีน้ำมันที่จับกุมได้ว่าเป็นเงินเท่าไร และประเด็นต่อมา เงินริงกิตมาเลเซียที่ยึดได้คิดเป็นเงินไทยเท่าไร
ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคม 2563 อัยการได้ทำหนังสือเตือนแจ้งให้พนักงานสอบสวนเร่งส่งผลสอบเพิ่มมา แต่จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ส่งผลการสอบเพิ่มมาให้อัยการแต่อย่างใด อัยการจึงยังสั่งคดีนี้ไม่ได้
“ส่วนคดีที่อัยการจังหวัดปัตตานีมีทั้งหมด 5 สำนวน ทุกคดีเป็นอันยุติหมดแล้ว ”