จากข้อมูลทางดาวเทียมของ GISTDA พบว่า พื้นที่ปลูกข้าวได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในปี 2564 มีประมาณ 3.9 ล้านไร่ โดย Krungthai COMPASS ประเมินว่าผลผลิตข้าวเปลือกจะได้รับเสียหายจริงประมาณ 1.6 ล้านไร่ หรือคิดเป็นเพียง 2.3% ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งประเทศ และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 5,400 ล้านบาท
ผลผลิตข้าวที่ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่เป็นข้าวที่อยู่ในระยะ (Stage) ของการเจริญเติบโต หรือข้าวที่ออกรวงและพร้อมเก็บเกี่ยว ส่วนข้าวที่เพิ่งหว่าน คาดว่าจะสามารถทนน้ำได้ และหากเป็นพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมขังนาน ข้าวจะไม่เสียหายมากนัก โดยปกติข้าวจะทนน้ำได้อย่างน้อย 15 วัน
5 จังหวัด ที่ได้รับความเสียหายมากสุด
1.นครราชสีมา
2. นครสวรรค์
3. ชัยภูมิ
4.ศรีสะเกษ
5.ขอนแก่น
ทิศทางธุรกิจข้าวปี 2565 จะเป็นอย่างไร?
ในปี 2565 ผลผลิตข้าวเปลือกจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 32 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) จากสภาพภูมิอากาศและปริมาณน้ำที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากยิ่งขึ้น
ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะดีขึ้นแต่ไม่มากนัก โดยอยู่ที่ประมาณ 6.5 ล้านตัน และยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำหากเทียบกับในช่วงปี 2550-2561 ที่เคยส่งออกได้เฉลี่ยปีละ 9-10 ล้านตัน ทั้งนี้ เนื่องจากค่า เงินบาทที่มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่า จะทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันกับราคาข้าวที่ต่ำกว่าของประเทศคู่แข่งอย่า "เวียดนาม" และ "อินเดีย" ได้ยากขึ้น
อีกทั้งคาดว่าผลผลิตข้าวของประเทศคู่แข่งสำคัญของไทย เช่น เวียดนาม และอินเดีย จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ยิ่งทำให้การแข่งขันในตลาดข้าวโลกรุนแรง จึงคาดว่าราคาขายส่งข้าวสารของไทยจะมีแนวโน้มลดลง
โดยประเมินว่าในครึ่งแรกของปี 2565 ราคาขายส่งข้าวขาว 5% เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 11,270 บาท/ตัน หรือลดลง 21.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoYX)
ส่วนราคาขายส่งข้าวหอมมะลิ 100% เฉลี่ยจะอยู่ที่ 18,668 บาท/ตัน หรือลดลง 20.7%YoY
นอกจากนี้ ปัญหาต้นทุนค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง ยังเป็นปัจจัยถ่วงอัตรากำไร
ท่ามกลางปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ ที่เกษตรกรรวมถึงผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานธุรกิจข้าวต้องเผชิญอยู่ โดยเฉพาะปัญหาในด้านการผลิตและการส่งออก ไม่ว่าจะเป็นปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินจำนวนมากของโรงสี (เกือบ 2 เท่าของปริมาณข้าวเปลือกที่เป็นวัตถุดิบในแต่ละปี)
อีกทั้งการบริโภคในประเทศก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น หนำซ้ำยังมีแนวโน้มลดลงตามกระแสรักสุขภาพอีกด้วย ขณะที่การส่งออกข้าวก็ยากขึ้น เนื่องจากราคาส่งออกข้าวไทยเฉลี่ยยังสูงกว่าคู่แข่งและมีแนวโน้มที่จะถูกตีตลาดจากข้าวพื้นนุ่มของเวียดนามที่เป็นที่นิยมมากขึ้นในตลาดโลก
ปัญหาอุทกภัยในปีนี้ที่ขยายวงไปในหลายพื้นที่ของประเทศ ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง จึงสามารถซ้ำเติมธุรกิจข้าวได้