จากกรณี นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาของคณะกรรมการควบคุมภายในรับแจ้งเรื่องศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ โรงพยาบาลขอนแก่น ที่ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบการบริหารงาน โดยระบุว่าปฏิบัติงานตามความเหมาะสมต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 แล้ว พร้อมให้ทนายความรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการฟ้องศาล แจ้งเอาผิด เพราะประเด็นของร้องเรียนนั้นไม่เป็นความจริง โดยผู้ที่เดินทางยื่นหนังสือ รวมทั้งการขึ้นป้าย จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนั้นถือเป็นการใส่ร้ายผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่เป็นการดำเนินการตรวจสอบตามปกตินั้น
5 พฤศจิกายน 2564 แพทย์หญิงรักฝัน สวัสดิ์พาณิชย์ ประธานองค์กรแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น ออกมาแสดงความรู้สึก พร้อมกล่าวว่า การดำเนินการก่อนการยื่นหนังสือให้ตรวจสอบผู้บริหารโรงพยาบาลขอนแก่นนั้น ทางองค์กรแพทย์ได้จัดการประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 โดย พญ.จรรยาภรณ์ รัตน์โกศล ประธานคณะกรรมการควบคุมภายในรับแจ้งเรื่องศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รพ.ขอนแก่น นำข้อมูลจากการตรวจสอบทั้งเอกสารข้อเท็จจริงและการลงพื้นที่ พบว่า ในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมามีการบริหารงานที่ผิดปกติหลายประการ ทางประธานคณะกรรมการตรวจสอบภายในได้ชี้แจงในหลายประเด็น ตามข้อเรียกร้องให้ตรวจสอบ ทั้งการบริหารงานบุคคล การจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งเปลี่ยนกรรมการตรวจสอบภายในของโรงพยาบาล
“ประเด็นร้องเรียนข้อสำคัญคือ การจัดซื้อจัดจ้าง ชุดตรวจเอทีเคและการสร้างห้องแลปนั้น ต้องชี้แจงว่า ทางองค์กรแพทย์ไม่ได้คัดค้านการจัดซื้อเอทีเคแต่อย่างใด เพียงแต่ให้การจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องซึ่งสามารถดำเนินการได้ ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้การระบาดของไวรัสโควิด 19 นั้นอยู่กับเรามาถึง 2 ปีแล้ว จนเริ่มรู้จักกับไวรัสโควิดพอสมควร ทำให้เชื่อว่าทุกหน่วยงานบริการด้านสาธารณสุขจะมีแผนในการดำเนินงาน แผนการจัดซื้อจัดจ้างที่รองรับวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้น ทุกอย่างเมื่อมีอยู่ในแผนและดำเนินการตามขั้นตอนจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐสูงสุด ทำให้รัฐได้รับสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่ทำให้รัฐเกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบภายในเข้าตรวจสอบ พบว่ามีขั้นตอนที่ผิดปกติ เมื่อสมาชิกและคณะกรรมการองค์กรแพทย์ที่ร่วมประชุมนำข้อมูลที่ได้พิจารณาร่วมกัน จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่ามีความผิดปกติในการบริหารงานจริง จึงได้ทำหนังสือให้ตรวจสอบ พร้อมให้มีการส่งตัวแทน ซึ่งมีทั้งหัวหน้ากลุ่มงาน ผู้ช่วย และผู้อำนวยการแต่ละฝ่ายไปร่วมยื่นหนังสือ และมองว่าปัญหาสถานการณ์โควิด ไม่ใช่มามุ่งเน้น การจัดซื้อจัดจ้างซื้อชุดตรวจเอทีเคและทำแลป เพียงอย่างเดียว ที่สำคัญกว่า คือ การป้องกัน รักษา เรื่องเตียงรองรับผู้ป่วย ดังนั้น เมื่อคนทำงานพบว่ามีความผิดปกติก็ขอให้ตรวจสอบ เพื่อจะได้หายคลางแคลงใจกัน” แพทย์หญิงรักฝัน กล่าว
สำหรับประเด็นการดำเนินการทางคดีกับผู้ที่ยื่นหนังสือนั้น แพทย์หญิงรักฝัน กล่าวว่า ไม่แปลกใจแต่ประการใดเพราะในอดีตเมื่อครั้งที่มีการลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนในการโยกย้ายนายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนปัจจุบัน ได้ยื่นฟ้องนักนิติกร โรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ร่วมแสดงจุดยืนในเหตุการณ์ดังกล่าว และเพื่อนของผู้อำนวยการได้ยื่นฟ้องแพทย์หญิงกนกวรรณ ศรีรักษา อดีตประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นเช่นเดียวกัน
“ทางองค์กรแพทย์โรงพยายาบาลขอนแก่น และคณะกรรมการตรวจสอบภายใน ซึ่งมีทั้งหัวหน้ากลุ่มงาน รองหัวหน้ากลุ่มงาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสาขาต่างๆ ที่ได้ร่วมยื่นหนังสือให้ตรวจสอบ พร้อมเข้าสู่กระบวนการสอบสวนหรือฟ้องร้องทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย เพราะพวกเราไปยื่นหนังสือตามขั้นตอน นอกเวลาราชการ เพราะเมื่อมีการขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการทำงานของผู้บริหารสูงสุดในโรงพยาบาล จำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายเราก็คงต้องให้หน่วยงานภายนอก ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเป็นผู้บริหารสูงสุดของเราให้เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเราได้ทำตามขั้นตอนไม่ได้ข้ามสายงานผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใด”แพทย์หญิงรักฝัน กล่าว
ส่วนประเด็นที่ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้สัมภาษณ์ว่าจะดำเนินการฟ้องร้องนั้น รู้สึกลำบากใจและไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งที่จะทำงานร่วมกัน ซึ่งการทำงานจะดำเนินต่อไปอย่างไรนั้น ได้ปรึกษาหารือกันว่า ในอาทิตย์หน้าจะได้มีการประชุมสมาชิกองค์กรแพทย์ทุกคน เพื่อพิจารณาร่วมกันว่าจะทำงานอย่างไรกับผู้อำนวยการคนปัจจุบัน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีความคลางแคลงใจกัน แต่ทางบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนยังคงทำงานตามหน้าที่กันอย่างเต็มที่ตามปกติ
โดย-กวินทรา ใจซื่อ