เกมตัดเส้นเลือดใหญ่ เขย่าพลังประชารัฐ

สถานการณ์ร้อนตอนนี้ไม่มีอะไรเกินเรื่องคดีฟุตซอล ไม่ใช่แค่คดีฟุตซอลหรือคดีทางการเมืองอย่างเดียว แต่ส่งผลกระทบทางการเมือง เป็นเรื่องใหญ่ที่มีคดีว่าด้วยเรื่องของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 เพื่อสร้างสนามฟุตซอลในพื้นที่เขตการศึกษา ปรากฏว่า 1.มีการผันงบประมาณไป แล้วจัดซื้อจัดจ้างมีการทุจริต 2. นักการเมืองเข้าไปกำกับดูแลและก่อให้เกิดปัญหา คดีนี้ผ่านมาร่วม 9 ปี

เป็นการดำเนินการแปรญัตติงบประมาณ สั่งการให้ข้าราชการบรรจุงบประมาณไปในแผนงานของหน่วยงานของรัฐที่ต้องการรับงบประมาณ สพฐ.ไปทำเรื่อง จากนั้นให้พ่อค้าธุรกิจผู้รับเหมาไปดำเนินการที่นั่น คดีนี้สุดท้ายมีการร้องและ ป.ป.ช. ชี้มูล

3 ส.ส.ประกอบไปด้วย"รัตนเศรษฐ"ทั้งสิ้น เกมที่ยื้อมาตั้งแต่ต้น ในคดีฟุตซอลที่จะนำไปสู่การพิจารณาคดีนั้นจบ เพราะหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็น ส.ส. 14 ข้อกล่าวหาในคดีล้วนแล้วแต่เป็นคดีความที่ใหญ่

และผลของการตัดสินให้พ้นหน้าที่ ทำให้เกมการเมืองเปลี่ยนทันที การพ้นหน้าที่ในระลอกนี้แม้แต่เจ้าตัวก็ยัง งง

คุณวิรัช รัตนเศรษฐ เป็นส.ส. เป็นประธานวิปรัฐบาลทำหน้าที่จนเวลาสุดท้ายของตนเอง ในวันที่ 3 พ.ย. คุณวิรัช ให้สัมภาษณ์สะท้อนถึงความยังไม่รู้  เพราะเมื่อวันที่ 2 พ.ย. เวลาบ่าย 3 โมงเข้าร่วมประชุมพรรคกับหัวหน้าพรรค และเสนอว่าเงื่อนไขในการทำงานของส.ส.ควรจะเป็นเช่นไร และเมื่อนักข่าวไปถาม

เกมนี้ในทางการเมืองเขาบอกว่า มีรัศมีทำการอะไรบางอย่าง เพราะฉะนั้นคดีสนามฟุตซอล Game Over แล้ว แต่ที่หลายคนตั้งคำถาม แล้ว 3ช. จะ Game Over ไหม ? เพราะคุณวิรัช เป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของ 3ช. และอยู่ในขั้วของพลังประชารัฐอย่างชัดเจน เมื่อแกนนำหนึ่งคนของ 3ช.ถูกGame Over คดีของฟุตซอลนั้นทำให้ 3ช. ซึ่งเป็นเส้นเลือดหลักของกลุ่มในพลังประชารัฐจะกระทบกระเทือนแค่ไหน

คำสั่งประทับรับฟ้องในคดีฟุตซอล ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อคุณวิรัช รัตนเศรษฐ ไม่เพียงแค่ทำให้คดีความเรื่องนี้ได้ข้อยุติแล้วไปต่อสู้กันในชั้นศาล แต่กำลังดำเนินการอยู่หนึ่งเรื่อง นั่นคือ ทำให้กระบวนการทำงานภายในพรรคพลังประชารัฐสะเทือนไปเช่นเดียวกัน เป็นขุนพลสำคัญที่เป็นประธานวิปคุมเสียงในสภา เกิดขึ้นในช่วงเพิ่งเปิดสภา เปิดสภาครั้งนี้อ่อนแอมากเพราะมีกฎหมายสำคัญหลายอย่างที่จะเข้า

การประทับรับฟ้องและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่เพียงทำให้ส.ส.พรรคพลังประชารัฐอย่าง 3 คน ปาร์ตี้ลิสส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งหยุดการทำหน้าที่หายไป 3 เสียง แต่เหนือกว่านั้นคือ เส้นเลือดใหญ่ในการจัดการบริหาร เกมทางการเมือง และการดูแลในเรื่องข้อกฎหมาย ในเรื่องของงานสภา หายไปทันที เพราะคุณวิรัชอยู่ในกลุ่ม 3ช. เส้นเลือดใหญ่ เป็นมันสมองในการเดินเกมสำหรับ 3ช.

ชะตากรรมของ 3ช. ตอนนี้ต้องบอกว่าอ่อนแรง แต่ในเกมการเมืองจะอ่อนแรงหรือไม่ ไม่มีใครรู้เพราะสามคนนี้ไม่ธรรมดา แต่ที่น่าจับตา คืออนาคตของส.ส.ในกลุ่มของคุณวิรัช จะออกมาทางไหน

เพราะฉะนั้นกระบวนการหลังจากนี้ไป จะไม่สะท้านเฉพาะเส้นเลือด แต่สะท้อนไปที่ลูกชายที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพราะตอนนี้กระแสการปรับครม.ยังมีอยู่ แต่มีผู้ใหญ่บางคนในพลังประชารัฐบอกว่า ควรลื้อโควตาจัดสรรกันใหม่ โดยเฉพาะโควตาในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ มาเช็กกันใหม่ว่าส.ส.ในสังกัดตัวเองนั้นเท่าไหร่กันแน่ ถ้าส.ส.หายไป 3 เสียง เท่ากับครม.ต้องมาคิดกันใหม่

เกมการเมืองหลังจากนี้ไป เมื่อมีปฏิบัติการรับฟ้องจากศาลในคดีฟุตซอล จะเป็นการเขย่าพรรคพลังประชารัฐอีกระลอก เป็นการเขย่าที่เกิดจากสนิมเนื้อในตน

เกมเหล่านี้กำลังจะทำให้พรรคพลังประชารัฐปรับอีกระลอก นั่นคือตำแหน่งประธานวิปรัฐบาล นายกต้องเป็นคนเซ็นลงนามแต่ต้องปรึกษากับพรรคแกนนำของรัฐบาล คือนายกต้องปรึกษาลุงป้อมว่าจะเอาใคร

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสายของ 3มิตร ปกติคนที่เป็นประธานวิปรัฐบาลจะต้องเป็นรัฐมนตรี ตอนนี้คนที่มีโอกาสเข้า Win มากที่สุดคือ คุณนิโรธ สุนทรเลขา เป็นสายตรงและเป็นเต็งหนึ่งแบบห่าง ๆ

แต่ตัวเต็งอีกหนึ่งคน คุณอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

และดุลอำนาจหลังจากนี้ไปในพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นแบบนี้

เกมการตัดเส้นเลือด ผ่านกระบวนการประทับรับฟ้องในคดีฟุตซอลกระแทกเข้าไปในมิติการเมือง 2 เรื่องอาจจะไม่เกี่ยวพันกัน แต่เกี่ยวพันกันโดยพฤตินัยที่ชัดเจน การใช้สถานที่ทำเนียบในการประชุมวิปรัฐบาล เป็นการสะท้อนดุลอำนาจที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ที่มา เนชั่นอินไซต์ บากบั่น บุญเลิศ และ วีระศักดิ์ พงศ์อักษร