2 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานโลกโซเชียลแชร์โพสต์ ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความ “รถเมย์ถูกมิจฉาชีพโจรกรรมไปค่ะ ท่านใดพบเห็นรถตามภาพช่วยแจ้งเบาะแสด้วยนะคะ เรื่องราวเป็นดังนี้ค่ะ ลูกค้าได้โทรมา แจ้งชื่อว่าเฮียตง เป็นเจ้าของร้านทองเยาวราช ที่บิ๊กซี ขอนแก่น ด้วยเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 080-4073017 สนใจที่จะซื้อรถ Ford raptor สีเทา ป้ายทะเบียน กก 3132 อุบลฯ ประมาณตอนเที่ยง และได้นัดส่งรถ ที่บิ๊กซี ขอนแก่น จึงทำการสไลด์รถ จากอุบลราชธานี ไปส่งให้ เวลาประมาณ 18:00 น. พอรถถึงยังไม่ทันได้คุยรายละเอียด ถอยรถลงจากสไลด์มาขึ้นขับรถไปเลยค่ะ ลูกน้องที่ไปส่งรถตกใจจึงรีบโทรกลับมาสอบถามว่าทำไมลูกค้าถึงขับรถไปเลย และก็ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วเป็น สลิปปลอม” หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างแชร์อย่างรวดเร็วและประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น วิทยุสกัดจับแต่ก็ไรวี่แวว
จากการตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวมาจาก บ.มงคลคาร์เซ็นเตอร์ อำเภอเมืองอุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับนางเมวดี จุลทัศน์ กรรมการผู้จัดการ บ.มงคลคาร์เซ็นเตอร์ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าได้มีมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งในห้าง บิ๊กซีขอนแก่น ติดต่อเข้ามาทางบริษัทผ่านทางผู้บริหารระดับสูงว่าสนใจรถยนต์ Ford raptor สีเทา ที่รีวิวประกาศขายทางยูทูป จึงพูดคุยกันตกลงราคาที่ 1,170,000 บาท จากนั้นมิจฉาชีพรายนี้ได้ปลอมข้อความสลิปการโอนเงินมัดจำจำนวน 1,170,000 บาท ส่งให้ทางผู้บริหารและได้นัดส่งมอบรถกันที่ห้างบิ๊กซี ขอนแก่นในช่วงเย็นของเมื่อวาน (1 พ.ย.)
เมื่อรถไปถึงจุดนัดหมาย มีชายขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกนิรภัย และใส่แมสปิดบังใบหน้า ก่อนจะขับรถออกจากบิ๊กซีไปแล้วจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้ทำให้พนักงานที่ไปส่งรถเกิดความสงสัยติดต่อกลับมาที่บริษัทเพื่อตรวจสอบยอดเงินพบว่าเป็นสลิปปลอมจึงได้ให้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น วิทยุสกัดจับก่อนจะนำข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้นลงในโซเชียลเพื่อให้ช่วยติดตามหาเบาะแสของมิจฉาชีพรายนี้
ต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้มีนายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) พลเมืองดีโทรเข้ามาบอกว่าพบรถคันที่หายจอดอยู่หลังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จึงได้ให้พนักงานที่ไปส่งรถเข้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นรถคันที่หายจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานลายนิ้วมือ เส้นผมของคนร้ายเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
นางเมวดี ยังเปิดเผยอีกว่า สำหรับเหตุการณืที่เกิดขึ้นต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ ให้ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วต้องระมัดระวังเพิ่มรอบคอบในการส่งมอบรถ ในการขายรถให้มากขึ้น เคสนี้ข้อบกพร่องของเราอย่างหนึ่งคืออะไรความที่เรายังไม่ได้ตรวจเช็คเงินที่โอนเข้าบัญชี อาจจะด้วยความเร่งรีบหรืออะไรก็ตามซึ่งมันผิดขั้นตอนก่อนที่เราจะไปส่งมอบรถไปส่งลูกค้า ยังไงก็ตามเราควรจะต้องตรวจสอบเงินให้เรียบร้อยก่อนแม้ เราจะรีบเร่งส่งรถให้ทันตามกำหนดเวลาของลูกค้าจนลืมมองเห็นถึงจุดที่มันผิดสังเกตที่ลูกค้าซื้อรถเขายังไม่ได้ดูรายละเอียดรถเลยเขาไม่ได้ตรวจสอบรถเลย แล้วก็มันมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง
หลังจากที่เราโพสต์ตัวนี้ลงไปในสื่อโซเชียลผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเดียวกันกับเราที่เขาเจอเขาเห็นเบอร์โทรนี้แล้วเขาก็ไปเช็คกับลูกน้องว่าที่เราเจอเนี่ยมันใช่เบอร์นี้หรือไม่ แต่ก็ปรากฎว่าเป็นเบอร์เดียวกันเกิดทั้งอยุธยา ทั้งสงขลา ทั้งอุดร ทั้งกรุงเทพฯ ก็เป็นเบอร์เดียวกันแต่ยังไม่มีใครได้รับความเสียหายเหมือนเรา เพราะว่าเขาก็จะไปตรวจสอบเจอปุ๊บเขาก็ไม่ได้ไม่ได้ทำงานส่งมอบรถ การโกงมันก็จะมีมาหลายรูปแบบคือบางคนก็โอนไปทั้งหมด บางอันก็คือโอนมัดจำไปก่อน บางส่วนอันนี้คือโอนจริงแล้วก็ค่อยโอนยอดค่าตัวรถทีหลัง อันนี้คือสลิปหลอกแล้วก็มาบอกว่าเปลี่ยนใจว่าซื้อไม่ได้แล้วเนื่องจากเหตุขัดข้องแล้วก็จะให้เราโอนเงินคืนแต่ก็เป็นความโชคดีที่ว่าผู้ประกอบการเจ้านั้นเขาไปเช็คเงินในบัญชีก่อนว่ามันไม่มียอดเงินยอดนี้โอนเข้าก็เลยโทรติดต่อกลับไปหาลูกค้าก็กดว่าก็ปิดเครื่องเขาก็เลยไม่ได้ไม่ได้เสียหายตรงนี้
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองต้องขอขอบคุณพลังโซเชียลที่แชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้คนร้ายไม่กล้าเคลื่อนย้ายรถ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเมืองดี ผู้ประกอบการเต้นท์รถต่างๆที่ให้ข้อมูลของมิจฉาชีพรายนี้ ซึ่งคาดว่าได้ก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จึงอยากขอให้ทุกฝ่ายติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้และใครที่มีเบาะแสมิจฉาชีพสามารถแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อจะได้ไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนกับคนอื่นอีกต่อไป
ข่าวโดย - เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ภาพโดย - เมวดี จุลทัศน์ กรรมการผู้จัดการ บ.มงคลคาร์เซ็นเตอร์