บันได 3 ขั้นเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ : รักษ์ มนตรี

รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย มีเสียงส.ส.ในสภาฯ เกินครึ่งหนึ่ง นับว่าการแก้ไขมาตรา112 (ม.112) ใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด

 

แต่แล้วรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับส่งสัญญาณไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นคนจากพรรคเพื่อไทย ให้ “ตีตก” ร่างแก้ไขมาตรา 112 ฉบับประชาชน

 

ในห้วงนั้น “นักวิชาการหัวก้าวหน้า” และ “กลุ่มแดงอิสระ” ผิดหวังในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และปักใจเชื่อว่า นี่คือแผนของ ทักษิณ ชินวัตร  เกี๊ยเซี๊ยะ “ชนชั้นนำ”

 

กลายเป็นกระแสความไม่พิใจพรรคเพื่อไทย และเป็นบาดแผลที่คนรุ่น Gen Y Gen Z หยามหยันว่า “สู้ไปกราบไป”

แต่วันนี้ พรรคเพื่อไทย ซึ่งยังกุมสภาพโดยตระกูลชินวัตร ออกแถลงการณ์ พร้อมผลักดันแก้ไขมาตรา 112 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และพระราชบัญญัติการกระทำอันเป็นความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ

 

โฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.ธีรารัตน์ สำเร็จวาณิชย์ แถลงย้ำจุดยืนพรรคว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เพิกเฉยข้อเรียกร้องจากการชุมนุมกลุ่มราษฎร 31 ต.ค.64 โดยได้รวบรวมข้อเรียกร้องจากการชุมนุมฯ นำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพื่อให้เกิดการรับฟังเสียงประชาชน มากที่สุด

 

ท่าทีของพรรคเพื่อไทย สอดรับ ท่าทีของพรรคก้าวไกล ที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค แสดงจุดยืนพรรคว่า จะเดินหน้าต่อเพื่อผลักดันร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

 

รังสิมันต์ โรม บอกว่า เป็นนิมิตรหมายอันดีที่พรรคการเมือง ซึ่งได้รับเลือกจากประชาชน ที่จะเริ่มต้นสะสางปัญหาที่เรื้อรัง 

 

แต่ 2 พรรคการเมือง ที่ประกาศขัดขวางแนวทางนี้ คือ พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคกล้า 

 

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ หัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกชัดว่า พรรคยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตรเป็นประมุข พรรคพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคสั่วน แต่ต้องไม่กระทบความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สถาบันหลัก ธำรงไว้ให้ประเทสไทยเจริญก้าวหน้ามาจรถึงทุกวันนี้ 

ไม่เหนือความคาดหมาย สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่หลังเปิดตัว สายเลือดชินวัตร แพทองธาร ชินวัตร ในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค เพื่อดึงเสียงคนรุ่นใหม่จากพรรคก้าวไกล 

 

ติดตามมาด้วย คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ชัยเกษม นิติศิริ ออกจดหมายเปิดผนึก พร้อมนำการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 ในสภาฯ

ความพยายามแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ชัดเจน ต้องเริ่มปักหมุดในปี 2549 นักวิชาการคณะนิติราษฎร์ รวมตัวกันต่อต้านรัฐประหาร พ่วงการเรียกร้อง แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยการนำเสนอบทความทางวิชาการ ออกมาเป็นระยะ แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก 

 

19 ก.ย.2553 กลุ่ม 5 อาจารย์นิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ และเพื่อนอาจารย์ เปิดตัวเว็บไซต์ “คณะนิติราษฎร์” พร้อมทั้งจัดงานเสวนาวิชาการ ในหัวข้อ “4 ปีรัฐประหาร 4 เดือนพฤษภาอำมหิต อนาคตทางสังคมไทย”

 

คณะนิติราษฎร์ ประกอบด้วย วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช ธีระ สุธีวรางกูร ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล และปิยบุตร แสงกนกกุล (ต่อมาประสิทธิ์ ถอนตัวไปในภายหลังเมื่อมีการรณรงค์มาตรา 112 แต่มีสมาชิกเพิ่มเติมคือ จันทจิรา เอี่ยมมยุรา ปูนเทพ ศิรินุพงศ์ และสาวตรี สุขศรี) 

 

19 ก.ย.2554 คณะนิติราษฎร์แถลงข้อเสนอทางวิชาการ ในหัวข้อ “5 ปีรัฐประหาร 1 ปีนิติราษฎร์” จนก่อให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

 

15 ม.ค.2555 คณะนิติราษฎร์ ร่วมกับ กลุ่มนักวิชาการ คณาจารย์ นักเขียน ศิลปิน และปัญญาชน จัดตั้ง “คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112” หรือ ครก. 112 เพื่ออธิบายรายละเอียด ของข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และรวบรวมรายชื่อ เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 112 ฉบับที่คณะนิติราษฎร์จัดทำขึ้น เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา โดยมีหัวหอกอย่าง ชาญวิทย์ เกษตรศิริ 

 

22 พ.ค. 2555 ครก.นำประชาชน “หาบ” รายชื่อประชาชน 3 หมื่นกว่ารายชื่อที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เสนอสภาฯ

 

ครก.ต้องอกหักดังเป๊าะ เมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ วินิฉัยว่า หลักการเสนอกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย และหมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ  

 

สร้างความผิดหลังให้ ครก. และกลุ่มแดงก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ผิดหวังไปถึงตัวผู้นำรัฐบาลอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผิดหวังไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังรัฐบาล อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ว่า “สู้ไปกราบไป” 

 

ประเด็นสำคัญ คือ เหตุใดท่าทีของพรรคเพื่อไทย “เปลี่ยนไป” ทั้งๆ ที่ DNA ของพรรคยังเหมือนเดิม คือ “ทักษิณ ชินวัตร” ยังเป็นผู้กำหนดทิศทางพรรคได้เหมือนในอดีตเมื่อปี 2556 และตลอดมา

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคเพื่อไทย ตอนนี้เปลี่ยนไปหลายบริบท เรียกว่าแผน “บันได 3 ขั้น”

 

บันไดขั้นแรก “โทนี่ วู้ดซั่ม” ออกมาจ้อในคลับเฮาส์ดึงเสียงคนรุ่นใหม่ 

 

บันไดขั้นที่สอง การส่ง “สายเลือดแท้” ไม่ใช่เลือดผสม อย่าง แพทองธาร ชินวัตร เข้ามานั่งในพรรคเต็มตัว เรียกเสียงฮือฮา และการตอบรับจากคนรุ่นใหม่ เป็นอย่างดี

แต่บาดแผล เมื่อปี 2556 ที่คนรุ่น Gen Y Gen Z หยามหยันว่า “สู้ไปกราบไป” จะลบรอยได้คงเหลือเพียงเรื่องเดียวคือ การไม่เอาจริงในการแก้ไข มาตรา 112 ทำให้พรรคเพื่อไทย ต้องกลับลำ 360 องศา ประกาศเดินหน้าแก้ไขกฎหมายนี้ในสภา 

 

เป็น บันไดขั้นที่สาม แถลงการณ์ที่นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ด้วยการสนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา

 

บันได 3 ขั้น เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือ ชิงฐานคะแนนเสี่ยงของคนในทุกเจเนอเรชั่น ให้พรรคเพื่อไทย ชนะแบบ “แลนด์สไลด์” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า