29 ตุลาคม 2564 หลังจากที่ต้นสังกัดของ "ลิซ่า blackpink" นักร้องชื่อดัง ออกมาปฏิเสธการตอบรับสัญญาจ้างของรัฐบาลไทย เพื่อมาโปรโมทการท่องเที่ยวช่วงสิ้นปีนี้ โดยบอกว่าตารางงานของลิซ่าไม่ว่างในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นคำแถลงที่เป็นคนละเรื่องโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่รัฐบาลได้บอกกับประชาชนว่า ลิซ่าได้ตกลงรับสัญญางานดังกล่าวแล้วนั้น
โดย นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ "เสธ.แมว" พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สายตรงคนแดนไกล ให้การสนับนุน ได้ออกมาเรียกร้องว่า เมื่อต้นสังกัดของลิซ่าได้ปฏิเสธข้อเสนอของรัฐบาลไทย รัฐบาลก็อย่าปล่อยให้งบประมาณ 200 ล้านบาทต้องสูญเปล่า รัฐบาลต้องเปลี่ยนให้งบ 200 ล้านบาทที่เตรียมไว้จ้างลิซ่า ให้เป็นงบ 200 ล้านบาท จ้างนักดนตรีและศิลปินไทยให้ได้
ทั้งนี้ เพราะตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบอาชีพกลางคืน ไม่ว่าจะนักดนตรี ศิลปิน เด็กเสิร์ฟ เจ้าของกิจการ ต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด ธุรกิจกลางคืนกลายเป็นธุรกิจที่ปิดก่อนแต่ต้องเปิดทีหลัง ธุรกิจกลางคืนกลายเป็นธุรกิจที่ได้รับการเยียวยาจากภาครัฐน้อยที่สุด ทั้งๆ ที่พวกเขาได้รับความเสียหายมากที่สุด
"รัฐบาลต้องคืนความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบอาชีพคนกลางคืนเหล่านี้ ด้วยการทำให้พวกเขากลับมามีงานทำให้ได้โดยเร็วที่สุด อีกทั้งความสามารถของนักดนตรีและศิลปินไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก งบประมาณ 200 ล้านบาทจะสามารถต่อชีวิต ต่อลมหายใจให้กับนักดนตรี ศิลปิน คนประกอบอาชีพกลางคืนได้อีกหลายชีวิต" นายปิติพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การใช้งบประมาณที่เป็นธรรม คือ การใช้งบประมาณที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในจำนวนมากที่สุด การใช้งบประมาณเพื่อจ้างนักดนตรีและศิลปินไทย จึงเป็นการใช้งบประมาณที่เป็นธรรมและตอบโจทย์กับความเดือดร้อนทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส ของคนกลางคืนที่กำลังประสบอยู่ในปัจจุบันนี้