svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

คำต่อคำ ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ " ไม่เอาธรรมนัส ผมลาออก"

28 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บ่ายนี้รู้ พลังประชารัฐ ฝีแตกหรือไม่ การรักษาใน 2-3 วันที่ผ่านมา ดูเหมือนอาการยังไม่ค่อยดี ลุงป้อม จะลงมือฝ่าตัดเคสนี้อย่างไร วันนี้อย่าพลาด แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น มาไล่ไทม์ไลน์ของเรื่องนี้กันว่า ระทึกขนาดไหน ฟัง “คำต่อคำ” ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ

28 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจาก พรรคพลังประชารัฐ ว่า หลังจากที่วันที่ 26 ต.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะต่อสายหากรรมการบริหารพรรคทุกคน ไม่ให้เซ็นใบลาออก จนกว่าจะประชุมพรรควันที่ 28 ต.ค. ทำให้มีกรรมการบริหารพรรคที่เซ็นใบลาออกรอไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่น ประสานไปยัง 6 รัฐมนตรี ขอถอนใบลาออก ทำให้เหลือคนที่เซ็นใบลาออกแล้วเพียง 6 คน

 

ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 27 ต.ค. กรรมการบริหารพรรคบางส่วน อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช เดินทางไปที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ร่วมรับประทานอาหารเช้ากับ พล.อ.ประวิตร

 

ช่วงหนึ่งแกนนำพรรคพูดกับ พล.อ.ประวิตร ถึงปัญหาที่เกิดจาก ร.อ.ธรรมนัส พร้อมระบุว่า รัฐบาลและพรรคจำเป็นต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าเป็น ร.อ.ธรรมนัส คงทำงานกันลำบาก นายกฯไม่เอา ร.อ.ธรรมนัส ควรปรับโครงสร้างให้ทำงานได้ ทำให้

 

พล.อ.ประวิตรกล่าวสวนว่า

“พวกคุณไปฟังความข้างเดียวกัน ถ้าไม่เอาธรรมนัส แล้วจะเอาใคร เขาทำงานเพื่อพรรค แล้วใครจะทำงาน คนอื่นเป็นคู่กรณี ถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน ผมลาออก ใครอยากเป็นก็มาเป็นเลย”

 

แกนนำคนเดิมระบุว่า ถ้าเป็น ร.อ.ธรรมนัสปัญหาจะไม่จบ นายกฯอาจไปตั้งพรรคใหม่

ทำให้ พล.อ.ประวิตรตอบอย่างมีอารมณ์ว่า

“ถ้านายกฯตั้งพรรคใหม่ ผมก็เลิก ไม่เล่นแล้วการเมือง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันระหว่างพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร มีการพูดถึงข้อสรุปในวงหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตร กับ 6 รัฐมนตรี เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างพรรค เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาด้วย

 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันดังกล่าวไม่ได้มีข้อสรุปอะไร นั่งฟังเฉยๆ ก็วันนั้นพวกเขารุมตน

 

ต่อมาในช่วงบ่ายแกนนำ และ ส.ส.หลายคนทยอยเข้าพบ พล.อ.ประวิตร อย่างพร้อมเพรียง อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

 

โดย พล.อ.ประวิตร เปิดโอกาสให้สมาชิกสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น ใครมีความในใจให้พูดมาตรงๆ มี ส.ส.ภาคใต้บางคนกล่าวว่า จริงๆแล้ว พวกเราไม่มีอะไร เป็นเรื่องผู้ใหญ่ทะเลาะกัน

 

พล.อ.ประวิตรตอบกลับไปว่า

“เป็นปัญหาอาจมีบางคนทะเลาะ และมีเด็กไปบอกนายกฯทำให้เป็นปัญหา เอาเป็นว่าต่อไปนี้ขอให้รักกัน พูดคุยกัน ให้จบตรงนี้ ที่ผ่านมามีอะไรที่ผิดพลาด หรือผมอาจดูแลทุกคนไม่ดีพอ ก็ขอโทษ แต่ยืนยันว่ารักสมาชิกทุกคน”

 

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นมีบางคนไม่ชอบผมเอาไปพูดนอกพรรค ทำให้สับสน” พร้อมเสนอให้ ส.ส.กลุ่มต่างๆมานั่งฟังจะได้ทราบไปพร้อมกัน ไม่ต้องไปประชุมกรรมการบริหารพรรควันที่ 28 ต.ค.อีก ให้จบวันนี้

 

แต่เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พูดจบรรยากาศกลับตึงเครียดขึ้น

 

เมื่อนายชัยวุฒิ กล่าวสวนว่า

“ให้เอาความจริงมาพูดกัน เมื่อครั้งที่จะโหวตสวน ผมและนายกฯคืออะไร”

 

ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า

“ที่ผ่านมาขอโทษ ส่งข้อความและชี้แจงไปหมดแล้ว”

 

นายชัยวุฒิ กล่าวย้ำอีกครั้งว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกันจะดีกว่า”

 

มีรายงานด้วยว่า ในการหารือมีการแจกกระดาษแบบสอบถาม 7-8 ข้อ ให้สมาชิกเขียนด้วยลายมือ ไม่ต้องระบุชื่อ เช่น สอบถามว่า ต้องการให้ใครเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และ อนาคตอยากให้พรรคเป็นอย่างไร รวมถึงให้แสดง ความรู้สึกต่อรัฐมนตรีในสังกัดพรรค

 

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้อ่านผลการกรอกแบบสอบถามด้วยตัวเอง มีสีหน้ายิ้มแย้มว่า ทั้งหมดพร้อมใจยืนยันให้ พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนเลขาธิการพรรคประมาณ 80% ยังไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส รองลงมาคือ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น้อยที่สุดคือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

 

ขณะที่การแสดงความเห็นต่อรัฐมนตรีของพรรค ส่วนใหญ่มีความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียว คือ ไม่พอใจต่อการปฏิบัติตัวของรัฐมนตรี 2 กระทรวง คือ กระทรวงแรงงานและกระทรวงดีอีเอส ผลการตอบแบบสอบถามดังกล่าวจะมีการนำไปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคทราบ

 

ล่าสุดวานนี้เวลา 19.30 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ยืนยันกับประชาชนอีกครั้งว่า “ต่อให้ผมไม่มีตำแหน่งใดๆ เหมือนก่อนเข้ามาในวงจรการเมือง เป็นเพียง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็จะอุทิศตน ช่วยเหลือประชาชนเต็มที่เหมือนเดิมตามที่ตั้งใจไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ผมเกิดจากครอบครัวชาวนา เป็นลูกชาวนา ฐานะยากจน ต่อสู้ชีวิตมาถึงวันนี้ พอมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีไม่ขัดสน เข้าใจดีความลำบากคนยากคนจนเป็นอย่างไร คิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้งเสมอ อาจไม่ใช่คนพูดเก่ง มีวาทศิลป์ แต่ขอให้ดูผลงาน ความทุ่มเทการช่วยเหลือประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้สิ่งนั้นเป็นคำพูดแทนตัวของผม ขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกๆท่านในทุกๆช่องทาง”

คำต่อคำ ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ " ไม่เอาธรรมนัส ผมลาออก"

logoline