svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ออสเตรเลียยุติเก็บ AD "สับปะรดกระป๋อง-กระจกโฟลตใส"

24 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สินค้าสับปะรดกระป๋องและกระจกไทยมีเฮ หลังจากออสเตรเลียประกาศยุติการเก็บ AD หลังจากที่เก็บมาแล้ว 10 – 20 ปี ลุ้นส่งออกไปออสเตรเลียได้มากขึ้น

24 ตุลาคม 2564 นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่หน่วยงานไต่สวนการทุ่มตลาดของออสเตรเลีย ประกาศเปิดทบทวนการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping: AD) กับสินค้าของไทย 2 ประเภท ได้แก่ สินค้าสับปะรดกระป๋องสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร (ขนาดมากกว่า 1 ลิตร) และสำหรับผู้บริโภค (ขนาดไม่เกิน 1 ลิตร) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 และสินค้ากระจกโฟลตใส เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 

กีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 หน่วยงานไต่สวนของออสเตรเลียได้ประกาศผลการทบทวนการใช้มาตรการ AD กับสินค้าสับปะรดกระป๋องทั้ง 2 ประเภทดังกล่าว และสินค้ากระจกโฟลตใส จากไทย โดยทั้งสองกรณีมีผลให้ยุติการใช้มาตรการกับไทยและจะสิ้นสุดการใช้มาตรการกับไทยตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป 

สำหรับสินค้าสับปะรดกระป๋อง ออสเตรเลียได้ประกาศผลให้ยุติการใช้มาตรการกับสินค้าทั้งจากไทยและฟิลิปปินส์ เนื่องจากอุตสาหกรรมภายในออสเตรเลียไม่ได้รับความเสียหายจากสินค้าที่นำเข้าจากไทยและฟิลิปปินส์แล้ว โดยไทยถูกเรียกเก็บอากร AD จากสินค้าสับปะรดกระป๋องมายาวนานถึง 20 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 ในอัตรา 9.6 – 28.6 % ของราคา C.I.F. สำหรับชนิดใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และอัตรา 2.6 – 16.8 % ของราคา C.I.F. สำหรับชนิดผู้บริโภค ทั้งนี้ ในช่วงปี 2561 - ปัจจุบัน ออสเตรเลียนำเข้าสับปะรดกระป๋องทั้งสองประเภทจากไทยมีมูลค่าประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากมูลค่าการนำเข้ารวมของออสเตรเลียประมาณ 23-29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในปี 2563 ไทยมีส่วนแบ่งการนำเข้าร้อยละ 32 ของการนำเข้าสินค้าสับปะรดกระป๋องของออสเตรเลียทั้งหมด เป็นอันดับ 2 รองจากฟิลิปปินส์ และในเดือน ม.ค.-ส.ค. 64 ไทยมีส่วนแบ่งการนำเข้าเป็นอันดับหนึ่ง โดยคิดเป็นร้อยละ 36 ของการนำเข้าสินค้าสับปะรดกระป๋องของออสเตรเลียทั้งหมด

สำหรับสินค้ากระจกโฟลตใส ออสเตรเลียได้ประกาศผลให้ยุติการใช้มาตรการกับสินค้าจากไทยและจีน เนื่องจากไม่มีเหตุให้เชื่อว่าไทยจะทุ่มตลาดอีก แต่ยังใช้มาตรการกับสินค้าจากอินโดนีเซียต่อไปในอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาด 15.3 – 28.3 % ของราคา C.I.F. ไทยจึงมีความได้เปรียบในการส่งออก โดยไทยถูกเรียกเก็บอากร AD จากสินค้ากระจกโฟลตใสมานานถึง 10 ปี ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2554 ในอัตรา 8.8 – 25.8 % ของราคา C.I.F.  โดยในปี 2563 ไทยมีส่วนแบ่งการนำเข้าร้อยละ 10 ของการนำเข้าสินค้ากระจกโฟลตของออสเตรเลียทั้งหมด เป็นอันดับ 4 รองจากมาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินโดนีเซีย และในเดือน ม.ค. - ส.ค. 64 ไทยมีส่วนแบ่งการนำเข้าคิดเป็นร้อยละ 6 ของการนำเข้าสินค้ากระจกโฟลตของออสเตรเลียทั้งหมด ทั้งนี้ ออสเตรเลียนำเข้ากระจกโฟลตใสจากไทยประมาณ 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากมูลค่าการนำเข้ารวม 28 - 45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 


 การประกาศยุติการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดกับสินค้าไทยจึงนับว่าเป็นผลดีต่อผู้ส่งออกสินค้าสับปะรดกระป๋องทั้ง 2 ประเภทและสินค้ากระจกโฟลตใสที่จะทำให้ผู้นำเข้าในออสเตรเลียสั่งสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจาก ผู้นำเข้าไม่ต้องจ่ายอากร AD โดยเฉพาะสินค้าสับปะรดกระป๋องสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารที่ออสเตรเลียมีสับปะรดสดที่จำกัดจึงต้องพึ่งพาการนำเข้า จากนี้ต่อไปขอให้ผู้ส่งออกไทยพึงระวังในการกำหนดราคาส่งออก เนื่องจากหากส่งออกด้วยราคาทุ่มตลาด ออสเตรเลียก็อาจฟ้องเพื่อใช้มาตรการตอบโต้อีกครั้งได้และขอให้ใช้โอกาสจากการได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เพื่อให้สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในออสเตรเลียได้ นายกีรติ กล่าวทิ้งท้าย
 

logoline