svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ประชาธิปัตย์ ส่อตกขบวน หลังคลื่นใต้น้ำ ไม่จับมือพลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย

22 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งซิก กับพรรคภูมิใจไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่จะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ชนกัน เพื่อไม่ให้คะแนนตัดกันเอง จึงทำให้มีโอกาสชนะฝ่ายค้านง่ายกว่า

คลื่นใต้น้ำภายในพรรคการเมือง เกิดขึ้นได้กับทุกพรรค ไม่เว้นแม้แต่พรรคเก่าแก่ที่สุดอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเมื่อขั้วหนึ่ง ถืออำนาจ อีกขั้ว ก็ย่อมต้องเห็นต่างเป็นธรรมดา ดังนั้น จึงนำพามาซึ่งความขัดแย้ง 

 

อย่างล่าสุด พรรคประชาธิปัตย์ มีปัญหาเรื่องการส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่บางก๊กตกหล่นหรือ ถูกยึดอำนาจ จนต้องรีบโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อปกป้องตัวเอง รวมถึงเป็นการกระตุกเตือน ผู้ถืออำนาจล่าสุดว่า กำลังเดินเกมผิดพลาดหรือไม่ หลังเสียแม่เหล็กอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง และหัวหน้าพรรคกล้า ไปแล้ว 

 

 

แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ว่า การที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากระตุกเตือนในเฟซบุ๊ก เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ กำลังเดินหลงทาง หลังขาดผู้นำอย่างนายอภิสิทธิ์ จึงทำให้การคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. เป็นเพียงแค่กลุ่มก้อน ของกลุ่มที่ถืออำนาจอยู่เท่านั้น ซึ่งบางคนถูกกีดกันไม่ให้รับรู้เรื่องเลย รวมถึงอาจมี ส.ส.บางเขต ต้องถูกโยกให้ไปลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแทน เพื่อเปิดทางให้กลุ่มตัวเอง มาลงสมัครรับเลือกตั้งแทน 

 

ทั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคเก่าแก่ ผ่านสนามเลือกตั้งมาอย่างโชกโชน ควรจะมีระบบคัดเลือกผู้สมัคร ที่เป็นธรรม ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดคลื่นใต้น้ำแบบนี้ 

แหล่งข่าวในพรรคประชาธิปัตย์ ยังมองว่า การออกมากระตุกเตือนของนายนิพิฏฐ์ ยังเป็นการเตือนว่า พรรคประชาธิปัตย์ หากยังเดินแบบนี้ จะตกขบวนพรรคร่วมรัฐบาลเพราะพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งซิก กับพรรคภูมิใจไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่จะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ชนกัน เพื่อไม่ให้คะแนนตัดกันเอง จึงทำให้มีโอกาสชนะฝ่ายค้านง่ายกว่าเนื่องจากฝ่ายค้าน ยังมีคะแนนตัดกันเองอยู่ แต่พรรคร่วมรัฐบาล จะไม่ส่งตัดกันเองเพื่อให้ได้จำนวน ส.ส.ไม่น้อยกว่าเดิม 

 

โดยมีหลักการว่า เขตใดเป็นของพรรคไหน ก็ให้พรรคเดิมส่งชิง ส่วนพรรคร่วมอื่น ต้องหลีกทางให้ 

 

แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคประชาธิปัตย์ ยังชี้ให้เห็นว่า สูตรนี้ พรรคร่วมรัฐบาล ได้ใช้ในการเลือกตั้ง นายก อบจ.ที่ผ่านมา จนทำให้กวาดเก้าอี้ นายก อบจ.มาจำนวนไม่น้อยและทำให้พรรคก้าวไกล ไม่ได้นายก อบจ.เลยแม้แต่จังหวัดเดียว 

สูตรนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่ค่อยเล่นด้วย ดังที่เห็นการส่งผู้สมัคร ส.ส.ซ่อมในบางเขต ที่ส่งชนกัน จนทำให้รอยร้าวระหว่างพรรคพลังประชารัฐ กับ พรรคประชาธิปัตย์บาดลึกมาถึงทุกวันนี้ 

 

นอกจากนี้ สูตรนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็พยายามใช้ แต่ไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากไม่สามารถคุยกับพรรคก้าวไกล ได้ จึงทำให้พรรคเพื่อไทย เสียเก้าอี้ นายก อบจ.ไปหลายจังหวัด อย่าง บางจังหวัด เมื่อไปเจาะดู ก็จะเห็นสูตรนี้ชัดว่า ฝ่ายค้านส่งผู้สมัคร เกือบครบ แต่ฝ่ายรัฐบาล ส่งผู้สมัคร แค่พรรคเดียว ทำให้ไม่มีคะแนนตัดกันเอง จึงชนะไปได้แต่เมื่อเอาคะแนนมาคำนวน ของพรรคเพื่อไทย รวมกับ พรรคก้าวไกล ก็จะชนะพรรคฝ่ายรัฐบาล 

 

ดังนั้น เมื่อรัฐบาล ได้เปรียบ ก็เตรียมจะใช้สูตรนี้ ในการเลือกตั้งใหญ่ ที่เป็นข้อตกลงพ่วงมาจากเลือกตั้งท้องถิ่นด้วย ที่บางพรรคยอมหลีก นายก อบจ.ให้ เพื่อจะลง ส.ส. หรือ ลงระดับอื่นแทน 

 

 จึงเป็นห่วงว่า พรรคประชาธิปัตย์ อาจจะตกขบวนรัฐบาล หากยังเดินเกมส่งส.ส.ครบตัดเสียงพรรคร่วมรัฐบาล กันแบบนี้

 

ทีมข่าวการเมืองเนชั่นทีวี

logoline