สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันนี้ ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,704 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.15 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.95 เมตร/รทก. และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,673 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นายพงษ์ศักดิ์ อัครมณี ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า เนื่องจากในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จึงส่งผลทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงมากขึ้น โดยที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีมวลน้ำแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในอัตรา 2,700-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับทาง จ.อุทัยธานี มีปริมาณฝนตกมากขึ้น จึงส่งผลให้ลุ่มน้ำสะแกกรัง มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งมวลน้ำดังกล่าว จะไหลลงมายังเขื่อนเจ้าพระยา และตามแผนเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากมวลน้ำดังกล่าวไหลลงมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา ทางเขื่อนเจ้าพระยาก็จะมีแผนปรับการระบายน้ำให้อยู่ในอัตรา 2,700 ไม่เกิน 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ด้วยสถานการณ์น้ำที่ท่วมขังเดิมอยู่แล้ว ทางเขื่อนเจ้าพระยา มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในการยกระดับน้ำเพื่อเป็นการหน่วงน้ำให้การระบายน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ในเกณฑ์ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ ก็ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด และทางกรมชลประทานยืนยันจะบริหารจัดการน้ำให้เต็มศักยภาพและให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ข่าว-ภาพ โดย ธนพนธ์ แสงทอง