"เมธี ลาบานูน" จากนักร้องเสียงเอกลักษณ์ สู่เส้นทางการเมือง

“ไม่ได้ยินว่ารัก ฉันจะขอเป็นยาม อยู่ประจำจนเช้าทุกวัน เฝ้าบ้านให้เธอ” เชื่อว่าหลายคนที่เกิดในยุค’90 คงจะคุ้นหูคุ้นปากกับเนื้อร้องเพลง “ยาม” ที่วงดนตรี “ลาบานูน” วงร็อกที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนจากแดนใต้ สร้างสรรค์ผลงานไว้ จนกลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตข้ามกาลเวลา

 

สำหรับ “ลาบานูน” เป็นวงดนตรีที่วัยรุ่นหลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี นับตั้งแต่ฝ่าฟันในเวทีการประกวดรายการ Hotwave ครั้งที่ 2 ก่อนออกอัลบั้มชุดแรกเมื่อปี 2541 จากนั้นเส้นทางดนตรีของวง มีแต่กราฟทะเยอทะยานสูงขึ้น   

แม้ช่วงหลังผลงานเพลงของ “ลาบานูน” จะไม่ได้ครองใจวัยรุ่นยุคโซเชียลเหมือนสมัย “อนาล็อก” แต่สมาชิกในวง ที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่เต็มตัว ยังคงสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้แฟนคลับได้เอียงหูฟังอยู่เป็นระยะ

กระทั่งล่าสุดวง “ลาบานูน” กลับมาเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้ง เมื่อ “เมธี อรุณ” นักร้องนำเสียงนุ่ม ตัดสินใจเข้าสู่แวดวงการเมือง เมื่อเปิดตัวเข้าสู่พรรค “ประชาธิปัตย์” โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ร่วมงานแถลงข่าว

โดย “เมธี” พูดอ้อนระหว่างแถลงข่าวว่า อยากให้เยาวชนลองเปิดใจให้ประชาธิปัตย์ แล้วจะเห็นว่าพรรคแห่งนี้ เป็นสถาบันการเมือง ที่มุ่งมั่นพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง

 

ได้ยินแบบนี้ คงได้ใจบรรดากองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ไปแบบเต็มๆ และอาจเป็น “เชือกวิเศษ” ให้พรรคสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่รออยู่ในอนาคต...

สำหรับ “เมธี ลาบานูน” มีชื่อเล่นเป็นภาษาอาหรับว่า “อัสวาน” เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2522 ที่ จ.สตูล เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม จ.นราธิวาส ก่อนได้รับทุนศึกษาต่อชั้นมัธยมปลาย โรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย

 

โดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะเทคโนโลยีนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งช่วงที่พักวงนาน 6 ปี ตั้งแต่ปี 2549 นั้น เจ้าตัวเปลี่ยนบทบาทจากจับไมค์ดีดกีตาร์ เปลี่ยนเป็นถือหนังสือเข้าห้องเรียน ในฐานะอาจารย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และเป็นรองประธานสโมสรฟุตบอลสตูล ยูไนเต็ด

ครั้งหนึ่ง “เมธี” เคยพูดเปิดใจในรายการหนึ่งว่า ความฝันในวัยเด็ก ไม่เคยมีความคิดว่าอยากเป็นนักร้องเลย แต่อยากทำหน้าที่ปลัดอำเภอ รับใช้พี่น้องประชาชน เพราะพ่อเคยเป็น อส.ขับรถให้กับปลัดมาก่อน

 

ซึ่งช่วงที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือ เป็นเวลา 3-4 ปี เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก แต่มีหลายครั้งที่ถามกับตัวเองว่า “อยากเป็นครู” แบบนี้จริงเหรอ ก่อนได้รับคำตอบว่า ตัวเองชอบเป็น “นักบรรยาย” กระทั่งผันตัวกลับเข้าสู่วงการสายดนตรีอีกครั้ง เพื่อเติมเต็มบางอย่าง

 

หลังจากนี้ต้องจับตาดูว่า อนาคตบนเส้นทางการเมืองของชายเสียงนุ่มที่ชื่อ “เมธี” แห่งวงลาบานูน จะประสบความสำเร็จเหมือนวงการดนตรีหรือไม่??