วันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่ถนนเส้นทางระหว่างบ้านโนนตาล ไปบ้านหนองหญ้าม้า ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ถูกน้ำชีหลากพาดผ่าน ทำน้ำท่วมถนนยาว 1 กิโลเมตร ระดับน้ำลึก 30 เซนติเมตร ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านเข้าออกหมู่บ้านด้วยความยากลำบาก ขณะที่ชาวบ้านร้องสื่อก่อนน้ำหลากท่วม มีรถแบ็คโฮเข้าพื้นที่ขุดดินบริเวณไหล่ทางทำนบกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าที่นาของตนเอง โดยการขุดดินจากถนนฝั่งหนึ่ง มาทำนบกั้นน้ำ ซึ่งชาวบ้านมองว่าไม่ถูกต้อง ชาวบ้านได้มีการชี้จุดที่ขุดดินโดยน้ำต้นไม้มาปักเพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่รถแบ็คโฮขุดดิน เนื่องจากหากน้ำลดลงแล้ว ก็จะทำให้ถนนพังเสียหาย หวั่นไร้คนรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านโนนตาล หมู่ 9 ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม หลังจากที่น้ำจากแม่ชีเอ่อล้นตลิ่ง หลากท่วมถนนซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างบ้านโนนตาลหมู่ 9 ไปยังบ้านกุดเวียนหมู่ 6 และบ้านหนองหญ้าม้า หมู่ 11 ซึ่ง 3 หมู่บ้านนี้มีประชากรรวมกันกว่า 600 คน ซึ่งชาวบ้านบอกว่ามวลน้ำชีได้เอ่อล้นตลิ่งพาดผ่านถนนทางเข้าหมู่บ้านมาตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ระดับน้ำสูงสุดตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร ตอนนี้รถกระบะยังสามารถผ่านได้ แต่หากน้ำขึ้นสูงกว่านี้ก็จะทำให้เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ คงต้องขอเรือมาใช้เป็นทางเข้าออกชั่วคราว
นายอรรถวุฒิ กรุงแสนเมือง ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า น้ำได้หลากท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านได้ 2วันแล้ว ซึ่งถนนเส้นนี้ถือเป็นเส้นหลักที่ใช้เข้าออกหมู่บ้าน ซึ่งคาดการณ์มวลน้ำที่มีปริมาณมากขนาดนี้ ดูแล้วยังไงน้ำก็ท่วมแน่ ๆ แต่ตรงจุดนี้เป็นน้ำหลาก คาดว่าไม่กี่วันน้ำก็จะลดลง แต่ตอนนี้สิ่งที่ชาวบ้านเป็นกังวลก็คือ ก่อนที่น้ำจะหลากท่วมพื้นที่ตรงนี้ ก่อนหน้านี้ 2 วัน มีบุคคลซึ่งคาดว่าจะเป็นเจ้าของนาในบริเวณนี้ ได้ว่าจ้างรถแบ็คโฮ เข้ามาในพื้นที่ จากนั้นได้มาขุดดินที่ไหล่ทางฝั่งที่ไม่อยู่ติดน้ำชี มาทำเป็นคันกั้นน้ำ ซึ่งดำเนินการไปแล้วประมาณ 100 เมตร ก่อนที่ตนและชาวบ้านจะมาพบ จึงได้สอบถามว่ามาได้อย่างไรใครว่าจ้างมา ทางฝั่งแบ็คโฮอ้างว่า ชาวบ้านโนนตาล ได้มีการประชาคมว่าจะทำพนังกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำหลากเข้าท่วม แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ไม่มีการทำประชาคม ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง จึงบอกให้หยุดดำเนินการและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาตรวจสอบ ก่อนที่รถแบ็คโฮจะออกจากพื้นที่ไป โดยที่มีการนำดินที่ขุดออกไปแล้ว กลับมาโปะไว้ที่ไหล่ทางดังเดิม แต่เมื่อน้ำหลากเข้าท่วม ดินที่ไม่แน่น ก็ถูกน้ำเซาะพังทลายไปทั้งหมด ซึ่งปัญหาอยู่ตรงที่ว่า หากน้ำลดถนนเส้นนี้จะต้องพังเสียหายแน่นอนใครจะมารับผิดชอบ
ซึ่งรถแบ็คโฮที่เข้ามา ชาวบ้านคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของนาในละแวกนี้ที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วมนาข้าวของตนเอง แต่มวลน้ำที่มากมายขนาดนี้ ยังไงก็ท่วม ที่ชาวบ้านต้องร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ก็เพราะว่าถนนเส้นนี้กว่าจะได้มาเป็นคอนกรีต ใช้เวลามากกว่า 50 ปี ถนนเพิ่งจะทำเสร็จเมื่อปี 63 ที่ผ่านมา หากถนนพัง ถนนชำรุด ก็ชาวบ้านนี่แหละที่เดือดร้อน
นางชนพร พันธุ์แดง ชาวบ้านโนนตาล หมู่ 9 ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ล่าว่า ชาวบ้านได้มีการสอบถามไปยังผู้ใหญ่บ้านโนนตาล ว่าได้มีการประชาคมให้รถแบ็คโฮมาขุดดินจากไหล่ทางไปทำพนังกั้นหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบจากผู้ใหญ่บ้านว่า ไม่มีการทำประชาคมใด ๆ ทั้งสิ้น สรุปได้ว่าเป็นเจ้าของนาที่จะได้รับผลกระทบคุยกันเอง ชาวบ้านบางกลุ่มก็ว่าควรที่จะให้ อบต.หาดินมาลงและกรอกกระสอบทรายช่วยกัน หากน้ำมาไม่เยอะเราก็เอาอยู่ แต่ทีนี้น้ำมาเยอะมากก็เอาไม่อยู่ เราก็ต้องปล่อย ถนนเส้นนี้กว่าจะได้มาก็หลายปี ชาวบ้านจะได้สัญจรสะดวก แต่หากถนนขาด เราก็ไม่มีเส้นทางสัญจรที่สะดวก แล้วใครจะรับผิดชอบ มีอะไรทำไมไม่ปรึกษาผู้นำ ผู้นำก็จะเป็นปากเป็นเสียงให้ชาวบ้าน อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาดูแล ก่อนที่จะเสียหาย ไม่ใช่ว่ารอให้เสียหายก่อน ค่อยหาคนมารับผิดชอบ
โดย - เอนก กระแจ่ม