วันนี้ (9 ต.ค.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์น้ำท่วม จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ทําให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
โดยพบว่าตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.-ปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ําท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 33 จังหวัด ได้รับความเดือดร้อน 214 อำเภอ 1,153 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 303,881 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย (ลพบุรีชาย 6 ราย , เพชรบูรณ์ ชาย 2 ราย , ชัยนาท ชาย 1 ราย) สูญหาย 1 ราย (เพชรบูรณ์ หญิง 1 ราย)
ซึ่งคลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลําพูน ลําปาง พิจิตร เพชรบูรณ์ ตาก กําแพงเพชร บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี ปราจีนบุรี
ยังคงเหลือพื้นที่น้ำท่วม 17 จังหวัด ประกอบด้วย สุโขทัย พิษณุโลก ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี
ซึ่งจังหวัดที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด คือ ) จ.ขอนแก่น ยังคงมีน้ําท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ (แวงน้อย แวงใหญ่ โคกโพธิ์ชัย ชนบท มัญจาคีรี พระยืน บ้านแฮด บ้านไผ่ เมืองฯ) ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลง ส่วนในเขต อ.เมืองฯ ระดับน้ำยังคงสูง อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ํา
จ.มหาสารคาม มวลน้ำจาก จ.ขอนแก่น ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ (โกสุมพิสัย กันทรวิชัย เมืองฯ) ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
จ.นครราชสีมา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ (โนนสูง พิมาย คง จักราช แก้งสนามนาง ประทาย เฉลิมพระเกียรติ ชุมพวง เมืองยาง) ระดับน้ำลดลง (จุดอพยพ 2 อ. 3 ต. รวม 47 คน) ได้แก่ อ.โนนสูง 2 ต. (ต.จันอัด 23 คน ต.โนนสูง 4 คน) อ.แก้งสนามนาง (ต.แก้งสนามนาง 20 คน)
จ.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ (เมืองฯ วารินชําราบ) ระดับน้ำลดลง (จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จํานวน 16 จุด อ.เมืองฯ ต.ในเมือง ผู้อพยพ 278 ครัวเรือน 1,083 คน ต.แจระแม ผู้อพยพ 133 ครัวเรือน 472 คน อ.วารินชําราบ 5 จุด ต.วารินชําราบ 94 ครัวเรือน 449 คน)
จ.ชัยนาท ยังคงมีน้ําท่วมขังในพื้นที่ 1 อำเภอ (สรรพยา) ระดับน้ำทรงตัว
จ.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ (บางปลาม้า สองพี่น้อง) ระดับน้ำทรงตัว อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ
จ.สิงห์บุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ (อินทร์บุรี ค่ายบางระจัน เมืองฯ พรหมบุรี ท่าช้าง) ระดับน้ำทรงตัว
จ.อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ (เมืองฯ ไชโย ป่าโมก วิเศษชัยชาญ สามโก้) ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองโผงเผง ซึ่งอยู่นอกเขตคันกั้นน้ำ ระดับน้ำทรงตัวได้ดําเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ําขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว
จ.อยุธยา น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ (ผักไห่ เสนา บางบาล พระนครศรีอยุธยา บางไทร บางปะอิน ท่าเรือ นครหลวง บางปะหัน มหาราช) ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล ซึ่งอยู่นอกเขตคันกั้นน้ำ ระดับน้ำทรงตัว ได้ดําเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว