การสร้างทางรถไฟสายจีน-ลาว เชื่อมนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนานกับนครหลวงเวียงจันทน์ของสปป.ลาวได้มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว คนงานกำลังแข่งกับเวลาเพื่อเร่งก่อสร้างกันอยู่ โดยทำงานกันไม่หยุดแม้จะอยู่ในช่วงโกลเด้นวีคหรือวันหยุดยาวของชาวจีนนั่นเอง
คาดว่าจะเปิดเดินรถได้ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ซึ่งเป็นวันชาติของลาว เมื่อถึงเวลานั้น การเดินทางและการขนส่งสินค้าไปมาระหว่างคุนหมิงและเวียงจันทน์ก็เดินทางถึงกันได้ในวันเดียว
ทางรถไฟสายจีน-ลาวมีระยะทางผ่านลาวประมาณ 426 กิโลเมตร ผ่านอุโมงค์ความยาวรวมกันถึง 198 กิโลเมตร ผ่านสะพานความยาวรวม 62 กิโลเมตร ความเร็วของรถไฟออกแบบให้อยู่ที่ 160 -210 กิโลเมตรซึ่งถือเป็นรถไฟความเร็วปานกลางตามมาตรฐานสากล
โครงการนี้เริ่มขึ้นในปี 2016 ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการ 1 แถบ 1 เส้นทางหรือ one belt one road ของจีนและสอดรับกับผลการประชุมของอาเซียนปี 2011 ที่ต้องการเห็นการเชื่อมโยงในภูมิภาคจากจีนผ่านลาวเข้าไทยไปมาเลเซียและจบที่สิงคโปร์
เกิดความสงสัยกันว่าลาวจะแบกรับภาระหนี้สินที่กู้จากจีนไหวหรือไม่และคุ้มค่ากับการลงทุนแค่ไหนกับโครงการที่ใช้เงินกู้กว่า 5 พัน 9 ร้อยล้านดอลลาร์ เรื่องนี้ฝ่ายลาวแจงว่าโครงการนี้เป็นการร่วมทุนจีน 70 เปอร์เซ็นต์ ลาว 30 เปอร์เซ็นต์ ภาระเงินกู้จึงตกอยู่กับฝ่ายจีนมากกว่า ลาวใช้คำว่าจีนเซ็นสัญญาผู้ร่วมชตากรรม จึงมั่นใจว่าจีนจะไม่ทำให้โครงการนี้มีปัญหาหรือติดกับดักหนี้ของจีน พร้อมปฏิเสธข่าวที่ว่าจีนขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ 20 กิโลเมตรตลอดเส้นทางรถไฟด้วย แต่เป็นโครงการที่จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของลาวให้มีช่องทางออกสู่ตลาดสากล
การก่อสร้างใช้เทคโนโลยีของจีนทั้งหมดรวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อกับเครือข่ายทางรถไฟของจีนโดยเส้นทางที่อยู่ในเขตจีนนั้น มี 11 สถานี ทุกสถานีถูกออกแบบมาโดยผสมผสานวัฒนธรรมที่บ่งบอกความเป็นท้องถิ่น อย่างเช่นที่สถานีรถไฟในสิบสองปันนา ที่รูปทรงของตัวสถานีคล้ายกับนกยูงเริงระบำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมชาวไทลื้อในยูนนาน